งานวิจัยเผย วัยรุ่น 1 พันล้านคนทั่วโลก มีความเสี่ยงสูญเสียการได้ยิน จากพฤติกรรมการฟังที่ไม่ปลอดภัย ทั้งการใช้หูฟังและการฟังเพลงในคอนเสิร์ต แนะรัฐบาลทั่วโลกเร่งสร้างพฤติกรรมการฟังที่ปลอดภัย
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 เว็บไซต์ Medical Xpress รายงานว่า ผลการศึกษาจากกลุ่มนักวิจัย ที่ร่วมจัดทำโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ BMJ Global Health ระบุว่า ตอนนี้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลทั่วโลกต้องเร่งสร้างพฤติกรรมการฟังที่ปลอดภัยให้กับเยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการว่า ปัจจุบันมีผู้คนกว่า 430 ล้านคนในทุกช่วงวัยทั่วโลกที่สูญเสียการได้ยิน โดยวัยรุ่นมีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ จากการใช้อุปกรณ์การฟังส่วนตัว เช่น สมาร์ทโฟน หูฟังเอียร์บัด และการฟังเพลงในคอนเสิร์ต
ก่อนหน้านี้ นักวิจัยมีการรวบรวมผลการศึกษา 33 ชิ้น ตั้งแต่ปี 2543-2564 ซึ่งสำรวจจากผู้คนที่มีอายุ 12-34 ปี เกือบ 20,000 คน ชี้ให้เห็นว่าผู้คนกลุ่มดังกล่าวมักมีพฤติกรรมการฟังในระดับเสียงที่สูงกว่า โดยการฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนผ่านหูฟัง ผู้ฟังมักเลือกระดับเสียงที่สูงถึง 105 เดซิเบล และสถานที่จัดงาน เช่น คอนเสิร์ต มักมีระดับเสียงที่ 104-112 เดซิเบล
ลอเรน ดิลลาร์ด (Lauren Dillard) ที่ปรึกษา WHO และหัวหน้าทีมวิจัย กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า มีการประเมินเบื้องต้นว่า ผู้คนอายุระหว่าง 12-34 ปี ซึ่งมีอยู่ทั่วโลกราว 2,800 ล้านคน มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียการได้ยินจากพฤติกรรมการฟังที่ไม่ปลอดภัยมากถึง 1,350 ล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรกลุ่มดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นักวิจัยซึ่งสำรวจประเด็นนี้ทั่วโลก กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า พฤติกรรมการฟังที่ไม่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นครั้งเดียว หรือเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ก็ทำให้เกิดอาการหูอื้อชั่วคราวหรือถาวร และส่งผลต่อการได้ยินในระยะยาว
ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือ CDC มีคำแนะนำเรื่องระดับเสียงสำหรับการฟังที่ปลอดภัย โดยระบุว่า ระดับเสียงที่เป็นเกณฑ์มาตรฐานและปลอดภัยอยู่ที่ 80-85 เดซิเบล หรือระดับเสียงใกล้เคียงกับเสียงของเครื่องเป่าใบไม้ หรือเสียงการจราจรในเมืองขณะขับหรือโดยสารรถยนต์
พร้อมกันนี้ ยังแนะนำให้ฟังในระดับเสียงไม่เกิน 85 เดซิเบล เป็นระยะเวลารวมไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยหากใช้ระดับเสียงเดียวกันหรือมากกว่าเป็นเวลานานเกินไป ถือเป็นอันตรายต่อระบบการได้ยิน