จับตา ภารกิจปูตินในกรุงมินสก์ หวั่นลากเบลารุสเข้าสู่สงครามยูเครน

Sputnik/Pavel Bednyakov/Pool via REUTERS

“ปูติน” เดินทางเยือนเบลารุส หารือ “ลูกาเชนโก” สร้างความกังวลว่ารัสเซียจะผลักดันให้เบลารุสมีบทบาทเพิ่มขึ้นในสงครามยูเครนหรือไม่ 

วันที่ 20 ธันวาคม 2565 อัลจาซีราห์รายงานว่า “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย เดินทางเยือนกรุงมินสก์เพื่อหารือกับ “อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก” ประธานาธิบดีเบลารุส ซึ่งอนุญาตให้รัสเซียใช้ประเทศของเขาเป็นจุดระดมทรัพยากรสำหรับการโจมตียูเครน

วิดีโอที่เผยแพร่โดยสถานีโทรทัศน์ทางการรัสเซียเผยแพร่ภาพขณะปูตินกำลังลงจากเครื่องบิน ที่สนามบินในกรุงมินสก์ซึ่งถูกปกคลุมด้วยหิมะ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากลูกาเชนโก

การเดินทางของปูตินครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางเยือนกรุงมินสก์ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 และการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ในเบลารุสเมื่อปี 2563 ซึ่งลูกาเชนโกสามารถสยบการประท้วงลงได้จากการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากรัสเซีย

ปูตินกล่าวว่า เขาและลูกาเชนโกได้หารือเรื่องการจัดตั้ง “พื้นที่ป้องกันเฉพาะ” (single defence space) ในภูมิภาค แต่ปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่ารัสเซียพร้อมจะกลืนประเทศเพื่อนบ้าน

“รัสเซียไม่ได้สนใจการควบรวมใด ๆ มันไม่สามารถทำได้” ปูตินกล่าวและว่า เขาสนับสนุนข้อเสนอของลูกาเชนโกเรื่องการฝึกลูกเรือเครื่องบินรบเบลารุส ที่ได้รับการแก้ไขเพื่อใช้หัวรบพิเศษ (อ้างถึงอาวุธนิวเคลียร์)

ลูกาเชนโกขอบคุณปูตินสำหรับการจัดหา “อิสกันเดอร์” ขีปนาวุธพิสัยใกล้และระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ให้กับกองทัพของเขา เขายังกล่าวด้วยว่าทั้งสองประเทศตกลงที่จะจัดการซ้อมรบร่วมกันต่อไป

“เซอร์ฮีฟ นาเยฟ” ผู้บัญชาการกองกำลังร่วมยูเครน กล่าวก่อนที่ปูตินจะเดินทางถึงเบลารุสว่า ในระหว่างการหารือของสองผู้นำ หลังจากนี้จะเกิดคำถามเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนเพิ่มเติม รวมถึงการมีส่วนร่วมของเบลารุสในปฏิบัติการต่อต้านยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อปฏิบัติการบนภาคพื้น

ขณะที่ลูกาเชนโกย้ำว่า เขาไม่มีความตั้งใจที่จะส่งทหารเข้าไปในยูเครน

ผลักดันบทบาทเพิ่มขึ้น ?

รัสเซียปฏิเสธข้ออ้างที่ว่าปูตินต้องการผลักดันให้เบลารุสมีบทบาทมากขึ้นในความขัดแย้งครั้งนี้

สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสตี รายงานอ้างคำพูดขอ “ดมิทรี เปสคอฟ” โฆษกทางการรัสเซียที่กล่าวว่า รายงานเหล่านี้ไม่มีมูลความจริง และ “โง่เขลา”

“เซอร์เกย์ ซอยกู” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า “วิกเตอร์ เครนิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเบลารุส คาดว่าจะเข้าร่วมการประชุมระหว่างสองผู้นำด้วย

ทหารรัสเซียที่เคลื่อนไปยังเบลารุสเมื่อเดือนตุลาคม จะดำเนินการฝึกซ้อมทางยุทธวิธีของกองทัพ ตามรายงานของสำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์ของรัสเซีย ที่รายงานโดยอ้างข้อมูลจากกระทรวงกลาโหม แต่ยังไม่ชัดเจนว่าการฝึกซ้อมนี้จะเริ่มเมื่อใด

ก่อนที่ปูตินจะเดินทางไปถึง “เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ” รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียก็ได้เดินทางไปยังเบลารุสแล้วตั้งแต่วันจันทร์

ลาฟรอฟได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศเบลารุส “เซอร์เกย์ อเลนิก” ซึ่งเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศเมื่อไม่กี่วันก่อน ทั้งคู่หารือเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศในกรุงมอสโก

ทั้งคู่ยังหารือถึงวิธีที่รัสเซียและเบลารุสใช้ปกป้องตัวเองจากแรงกดดันทางการเมืองที่มาจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกด้วย

กระทรวงต่างประเทศเบลารุสระบุด้วยว่า ลาฟรอฟและอเลนิกได้หารือเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตร แต่ไม่ได้กล่าวถึงยูเครน

ความขัดแย้งที่ดำเนินมานาน 10 เดือนในยูเครน นับเป็นความเคลื่อนไหวที่มีนัยมากที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วนับหมื่นคน และทำให้ผู้คนนับล้านคนต้องละทิ้งบ้าน ขณะที่หลายเมืองในยูเครนกลายเป็นซากปรักหักพัง

“โวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า กองกำลังของยูเครนยังคงประจำการอยู่ในเมืองบัคมุต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบดุเดือดที่สุดเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ในระหว่างที่รัสเซียพยายามที่จะรุกคืบในภูมิภาคโดเนสตก์ ทางตะวันออกของยูเครน

เมื่อวันจันทร์ เซเลนสกีได้เรียกร้องให้มีการประชุมผู้นำยุโรปเหนือในลัตเวีย เพื่อจัดหาอาวุธที่หลากหลายให้กับประเทศของเขา

ปูตินกล่าวถึงสิ่งที่เขาเรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครน ว่า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่รัสเซียได้ยืนหยัดต่อสู้กับฝ่ายตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งเขามองว่ากำลังหาทางใช้ประโยชน์จากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เพื่อทำลายรัสเซีย

ขณะที่ยูเครนและชาติตะวันตกกล่าวว่า คำกล่าวอ้างของรัสเซียนั้นไร้สาระ และปูตินไม่มีเหตุผลในการรุกรานยูเครน

ด้านรัสเซียเผยเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียกับจีนจะจัดการซ้อมรบทางเรือตั้งแต่วันพุธถึงวันที่ 27 ธันวาคม ซึ่งจะรวมถึงการยิงขีปนาวุธและปืนใหญ่ในทะเลจีนตะวันออกด้วย

แม้ว่าการซ้อมรบระหว่างสองประเทศจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2555 แต่รัสเซียพยายามที่จะเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางการเมือง ความมั่นคง และเศรษฐกิจ กับทางการจีน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พร้อมมองว่า “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน เป็นพันธมิตรหลักในการต่อต้านตะวันตก