เมื่อ ESG (ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) กลายเป็นกระแสหลักของโลก และเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
โดยล่าสุดพบว่า กองทุน ESG กว่า 10 แห่ง ได้ขายหุ้น “เทนเซ็นต์ โฮลดิ้ง” มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการเซ็นเซอร์เนื้อหาในอินเทอร์เน็ตของจีน และความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นขอทางการจีน
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
บลูมเบิร์กรายงานว่า หลังจากที่ Sustainalytics บริษัทวิจัยและจัดอันดับ ESG ได้ปรับลดอันดับ ESG ของบริษัท “เทนเซ็นต์” ยักษ์อินเทอร์เน็ตของจีน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 ลงมาอยู่ในกลุ่ม “ไม่ปฏิบัติตาม” หลักการของสหประชาชาติ (UN) ตั้งแต่นั้นมากองทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนที่ยั่งยืนอย่าง AXA Investment Managers SA, Candriam และ Storebrand Asset Management ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ในเทนเซ็นต์
นอกจากนี้พบว่าบรรดากองทุน ESG ในยุโรป มีการขายหุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงมากกว่า 40 บริษัท เป็นมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยบลูมเบิร์ก
ขณะที่บริษัทอินเทอร์เน็ตของจีนอย่าง “ไป่ตู้” และ “เหว่ยป๋อ” ก็ถูกลดอันดับด้าน ESG ก็เผชิญความท้าทายจากการเทขายหุ้นของกองทุนระดับโลกเช่นกัน
ไซมอน แมคมาฮอน หัวหน้าฝ่ายวิจัย ESG หน่วยงานหนึ่งของบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ กล่าวว่า “การเซ็นเซอร์และการสอดแนมของรัฐบาลจีนที่เพิ่มขึ้น และขยายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งในประเด็นศาสนา ปัญหา LGBT สงครามยูเครน และโควิด”
ขณะที่บริษัทจัดการลงทุน “Storebrand” ผู้บุกเบิกด้านการลงทุนที่ยั่งยืน ยอมรับว่าบริษัทได้ขายหุ้นบริษัทอินเทอร์เน็ตจีน ผลจากการปรับลดอันดับ ESG รวมถึง Alecta กองทุนบำนาญที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดน ที่มีพอร์ตการลงทุน 107,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ขายหุ้นเทนเซ็นต์เช่นกัน เนื่องจากประเด็นความเสี่ยงด้านกฎระเบียบจาก “การแทรกแซงของรัฐในธุรกิจเอกชน” รวมทั้งได้ขายหุ้นใน “อาลีบาบา กรุ๊ป” ออกไปด้วย โดยระบุว่าปัจจุบันบริษัทไม่มี “การลงทุนโดยตรง” ในบริษัทจีนอีกต่อไป
“คารินา ซิลเบิร์ก” หัวหน้าฝ่ายธรรมาภิบาลและความยั่งยืนของ Alecta กล่าวว่า “ความเสี่ยงในบริษัทจีนประเมินได้ยาก และการพัฒนาในจีนก็ไม่เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
ขณะเดียวกัน “Candriam” บริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลก ผู้ให้บริการรายใหญ่อันดับสามของกองทุน “Article 9” ซึ่งมีการกำหนดด้าน ESG ที่เข้มงวดที่สุดในสหภาพยุโรป มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่า 1.53 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ระบุว่า เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทตัดสินใจที่จะถอด “เทนเซ็นต์” ออกจากพอร์ตการลงทุนทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ยาก จากมุมมองทางการเงิน แต่การตัดสินใจ ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เทนเซ็นต์ล้มเหลวในการปฏิบัติตามมาตรฐาน ESG
ขณะที่เทนเซ็นต์ออกมาชี้แจงว่า ในฐานะบริษัทระดับโลกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เรายึดมั่นในมาตรฐานสูงสุด และนโยบายและขั้นตอนของบริษัท สอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับในแต่ละประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ และระบุในแถลงการณ์ว่า “ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และความปลอดภัยของข้อมูลเป็นค่านิยมหลักของเทนเซ็นต์ และบริษัทหวังว่าจะรักษาความไว้วางใจของผู้ใช้และมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ยอดเยี่ยมต่อไป”
และนี่ก็คือพลังของ ESG ที่กำลังก่อตัวเป็นกระแสหลัก และกระแสใหญ่ในการขับเคลื่อนและกำหนดทิศทางที่ธุรกิจทั่วโลกไม่สามารถปฏิเสธได้
