ตั้งแต่ 13 มีนาคม 66 ร้านสะดวกซื้อ ห้าง และสวนสนุกในญี่ปุ่นจะทยอยผ่อนคลายมาตรการใส่หน้ากากอนามัยสำหรับลูกค้า
วันที่ 9 มีนาคม 2566 สำนักข่าวไมนิจิ ของญี่ปุ่นรายงานว่า ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า รวมถึงสวนสนุกหลายแห่งในญี่ปุ่น เตรียมยกเลิกมาตรการบังคับให้ลูกค้า-ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2566 ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป โดยผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีมาตรการใหม่แตกต่างกันออกไป
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
สำหรับกลุ่มร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น และแฟมิลี่มาร์ท จะเพียงขอความร่วมมือให้ลูกค้าสวมหน้ากากอนามัยหากเป็นไปได้ ส่วนการใส่หน้ากากอนามัยของพนักงานจะขึ้นกับการตัดสินใจของแฟรนไชส์ซีแต่ละสาขา
ด้านห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงสวนสนุกนั้นไปในทิศทางเดียวกัน โดย ทาคาชิมายะ วางแผนจะเปิดให้ลูกค้าตัดสินใจเองว่าจะใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ ขณะที่ทางห้างจะยังเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อไว้บริเวณทางเข้า และเตือนให้ลูกค้าระวัง 3C คือ พื้นที่ปิด (closed spaces) พื้นที่แออัด (crowded places) และการสัมผัสใกล้ชิด (close-contact settings)
ส่วนอิออน อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดการผ่อนคลายมาตรการ ส่วนหน้ากากอนามัยภายในช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ และซูเปอร์มาร์เก็ต
สำหรับสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน โอซากา ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. เป็นต้นไปจะเปิดอิสระให้ลูกค้าเลือกใส่หรือไม่ใส่หน้ากากก็ได้เช่นกัน แต่ฝั่งพนักงานจะยังต้องใส่หน้ากากต่อไป
ทั้งนี้ สาเหตุที่ผู้ประกอบการต่างเตรียมผ่อนคลายมาตรการในวันที่ 13 มีนาคม 2566 กันอย่างพร้อมเพรียง เนื่องจากเป็นวันที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะผ่อนคลายแนวทางเกี่ยวกับการใส่หน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะเป็นไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยบนรถไฟฟ้า-รถเมล์ หรือนักเรียนไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนแล้ว
โดยจะเหลือเพียงการแนะนำให้ใส่ในบางสถานการณ์ เช่น บนขนส่งมวลชนกรณีผู้โดยสารหนาแน่น ในชั่วโมงเร่งด่วน เป็นต้น
ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าวว่า แนวทางใหม่จะเน้นให้ประชาชนสามารถตัดสินใจเองว่าจะใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ และตอนไหนบ้าง