ผลสำรวจพบชาวอเมริกันกังวลกับเรื่องอายุของโจ ไบเดน กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มากเกินไป ตัวเลขรวมจากการสำรวจสะท้อนว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ทั้งไบเดนและทรัมป์ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศชัดว่าจะสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีกสมัย ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในปี 2567 นี้
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
และล่าสุดเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกาจากพรรคเดโมแครตก็ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วเช่นกันว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกสมัย
การรีแมตช์ของคู่นี้กำลังจะเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลของชาวอเมริกันที่ไม่อยากได้ผู้นำที่อายุมาก
สำนักข่าว Reuters (รอยเตอร์) รายงานว่า การสำรวจที่ Reuters จัดทำร่วมกับ Ipsos (อิปซอส) ที่เสร็จสิ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2566 พบว่า โจ ไบเดน วัย 80 ปี ต้องเอาชนะความกังวลของชาวอเมริกันเกี่ยวกับอายุของเขาให้ได้เพื่อที่จะชนะการเลือกตั้งอีกสมัย เนื่องจากมีประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตซึ่งตอบแบบสำรวจสัดส่วน 44% ที่บอกว่าไบเดนแก่เกินไปที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง
ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 76 ปี ก็เผชิญกับความกังวลของประชาชนในเรื่องอายุของเขาเช่นกัน โดยมี 35% ของประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรครีพับลิกันซึ่งตอบแบบสอบถามบอกว่า ทรัมป์แก่เกินไปที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง
ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ทั้งไบเดนหรือทรัมป์ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง
แม้ว่าคะแนนนิยม (approval rating) ของไบเดนจะค่อนข้างต่ำ แต่ผู้ช่วยของเขาก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะทรัมป์ได้อีกครั้ง ขณะที่การสำรวจของ Reuters และ Ipsos ก็ยังแสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมของไบเดนนำทรัมป์อยู่ 43% ต่อ 38%
อายุของไบเดนทำให้การสมัครรับเลือกตั้งครั้งใหม่ของเขาเป็นการเดิมพันครั้งประวัติศาสตร์ และมีความเสี่ยงสำหรับพรรคเดโมแครต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเขาต้องเผชิญหน้ากับผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันที่อายุน้อยกว่ามาก (ซึ่งหมายถึง ไม่ใช่ทรัมป์)
พรรคเดโมแครตเผชิญหน้ากับการเลือกตั้งที่ยากลำบากในปี 2567 เพื่อจะรักษาตำแหน่งเสียงข้างมากในวุฒิสภา อีกทั้งยังเป็นเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรอยู่ในขณะนี้
หากไบเดนได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย เขาจะมีอายุ 86 ปี เมื่อสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองในอนาคต ซึ่งสูงกว่าอายุขัยเฉลี่ยของผู้ชายในสหรัฐอเมริกาเกือบ 10 ปี
ถึงอย่างนั้นก็ตาม แพทย์ที่ตรวจสุขภาพให้ไบเดนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเปิดเผยว่า ไบเดนซึ่งไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5 ครั้ง “พร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่” ส่วนทำเนียบขาวกล่าวว่า สถิติของไบเดนแสดงให้เห็นว่าเขามีสติปัญญาที่เฉียบแหลมเพียงพอสำหรับการทำงานอย่างเข้มงวด-แม่นยำ
ทั้งนี้ ในวิดีโอที่ไบเดนประกาศว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ไบเดนให้คำมั่นว่าจะปกป้องเสรีภาพของชาวอเมริกันจากกลุ่มผู้สนับสนุนนโยบาย Make America Great Again ของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งไบเดนเรียกว่าเป็น “กลุ่มคนหัวรุนแรง”
“ตอนที่ผมลงสมัครตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผมบอกว่าเรากำลังต่อสู้เพื่อจิตวิญญาณของอเมริกา และเราก็ยังคงทำอยู่ในตอนนี้”
“นี่ไม่ใช่เวลามานิ่งนอนใจ นั่นคือเหตุผลที่ผมลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่”
“มาทำงานนี้ให้สำเร็จกันเถอะ ผมรู้ว่าเราทำได้” เขากล่าว
ไบเดนบอกว่า ฐานนโยบายของพรรครีพับลิกันนั้นคุกคามเสรีภาพของชาวอเมริกัน เขารับปากว่าจะพยายามต่อสู้กับความพยายามของกลุ่มหัวรุนแรงและพรรครีพับลิกันที่จะจำกัดเสรีภาพในการดูแลสุขภาพของผู้หญิง (จำกัดเสรีภาพการทำแท้ง) การตัดประกันสังคม การแบนหนังสือ การชี้นิ้วสั่งสอนว่าใครควรจะรักกับใคร (กีดกันความรักของเพศหลากหลาย)