ทรัมป์ยืนกรานไม่ได้ทำผิด หลังรับทราบข้อกล่าวหา อ้างเป็นเหยื่อการแทรกแซงเลือกตั้ง

ทรัมป์ยืนกรานไม่ได้ทำผิด
AFP/ CHANDAN KHANNA

ทรัมป์ยืนกรานไม่ได้ทำผิด หลังเจอฟ้องอาญา 34 กระทงและขึ้นศาลรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว อ้างเป็นเหยื่อแทรกแซงเลือกตั้ง และความพยายามเอาชนะคู่แข่งด้วยกฎหมาย

วันที่ 5 เมษายน 2566 มติชน รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ แถลงเมื่อวันที่ 4 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่นรัฐฟลอริดา หลังถูกตั้งข้อหาในศาลแมนฮัตตัน และเขาได้เดินทางไปมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาที่นิวยอร์กแล้ว

ทรัมป์ยืนยันว่าเขาตกเป็นเหยื่อของการแทรกแซงการเลือกตั้ง และยังกล่าวโทษอัลวิน แบรกก์ อัยการเขตแมนฮัตตันในนิวยอร์ก ที่เป็นผู้ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาต่อเขาด้วย 

ทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุนที่มาร์-อา-ลาโก รีสอร์ตหรูของเขาในปาล์มบีช รัฐฟลอริดาว่า “ผมไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในอเมริกา อาชญากรรมเดียวที่ผมทำคือการปกป้องประเทศของเราจากผู้ที่พยายามทำลายประเทศของเราอย่างไม่เกรงกลัว” 

ทรัมป์กล่าวหาอัยการแบรกก์ว่า พยายามที่จะเล่นงานเขาก่อนที่จะรู้เรื่องใด ๆ เกี่ยวกับตัวเขา และเขากล่าวอีกว่าผู้พิพากษาฮวน เมอร์ซาน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในคดีดังกล่าว ก็เป็นผู้พิพากษาที่เกลียดเขาเช่นกัน ทั้งยังพาดพิงไปถึงอัยการแจ็ก สมิท ที่ดูแลคดีการเก็บเอกสารลับหลังพ้นตำแหน่งของเขาว่าเป็นที่ปรึกษาพิเศษที่เป็นคนวิกลจริต

ทรัมป์ได้ไล่เรียงคดีที่เขากำลังถูกฟ้องทั้งหมดนอกเหนือจากคดีอาญาที่เขาไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันเดียวกันนี้แล้ว ตั้งแต่การจัดการเอกสารลับในมาร์-อา-ลาโก เมื่อทรัมป์พ้นตำแหน่งช่วงต้นปี 2564 และคดีแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2563 ในรัฐจอร์เจีย

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐที่ประกาศตัวลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยต่อไปอีกครั้งในปี 2567 ย้ำว่า “ขณะนี้มีการแทรกแซงการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน”

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยืนยันว่า เขาจะยังคงเดินหน้าลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐต่อไป พร้อมกล่าวว่า “พวกเขาไม่สามารถเอาชนะเราได้ที่หีบเลือกตั้ง ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามเอาชนะเราผ่านกฎหมาย”

ทรัมป์ขึ้นศาลรับทราบข้อกล่าวหา
AFP/Steven HIRSCH/POOL

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ทรัมป์ได้เดินทางไปรับฟังทราบกล่าวหาว่าเขาได้กระทำผิดทางอาญามากถึง 34 กระทง จากการปลอมแปลงข้อมูลทางธุรกิจในคดีประวัติศาสตร์ที่ระบุว่า เขาได้จ่ายเงินให้กับหญิง 2 คนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 เพื่อระงับการตีพิมพ์หนังสือของพวกเธอเกี่ยวกับการมีสัมพันธ์กับทรัมป์

อัยการในแมนฮัตตันกล่าวหาทรัมป์ว่าปกปิดการละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง ระหว่างการหาเสียงที่ทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนั้น และยังทำให้ทรัมป์กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ถูกตั้งข้อหาในคดีอาญา โดยทรัมป์ยืนยันต่อศาลว่า เขาไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และไม่ได้พูดอะไรมากนักในศาลที่เขาใช้เวลารับทราบข้อกล่าวหาประมาณ 1 ชั่วโมง

อัยการยืนยันว่า จำเลยได้ปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจในนิวยอร์ก เพื่อปกปิดการดำเนินการอันเป็นการสมรู้ร่วมคิดที่ผิดกฎหมาย เพื่อบ่อนทำลายความซื่อสัตย์สุจริตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 รวมถึงละเมิดกฎหมายเลือกตั้งอื่น ๆ

ทั้งนี้ แม้ว่าการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจในนิวยอร์กจะถือเป็นความผิดอาญาที่มีโทษเพียงจำคุกไม่เกิน 1 ปี แต่การกระทำของทรัมป์ถูกยกระดับเป็นความผิดทางอาญาที่มีโทษถึง 4 ปี หากมีการดำเนินการซึ่งก้าวล่วงหรือปกปิดอาชญากรรมอื่น ๆ เช่น การละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง

นายท็อดด์ บลานช์ ทนายความของทรัมป์ กล่าวหลังเสร็จสิ้นการรับทราบข้อกล่าวหาว่า ทีมกฎหมายของทรัมป์จะต่อสู้อย่างเต็มที่ แม้ว่าทรัมป์จะรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์เสีย และโกรธเกรี้ยวเกี่ยวกับข้อกล่าวหา แต่เขายังคงกระตือรือร้น สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถหยุดยั้งเขา หรือทำให้เขาช้าลงได้ เพราะมันเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้ทุกอย่าง

ขณะที่อัยการแบรกก์ที่รับผิดชอบในคดีนี้ ที่ถูกทรัมป์กล่าวหาว่ามีแรงจูงใจทางการเมืองยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือการยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อหน้าที่เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย ไม่มีเงินและอำนาจใด ๆ จะเปลี่ยนแปลงหลักการของประเทศนี้ได้