ราคาขายคอนโดฯอายุ 10 ปีย่านรปปงงิ กลางกรุงโตเกียว ทำเลสถานีรถไฟโตเกียวเมโทรเพิ่มขึ้น 3 เท่า เมื่อเทียบกับราคาเสนอขายแรกก่อสร้างปี 2003 นักลงทุนต่างชาติมองอสังริมทรัพย์ญี่ปุ่นราคาถูก เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อื่น ๆ อย่างฮ่องกง นิวยอร์ก รวมถึงลอนดอน
วันที่ 11 สิงหาคม 2024 นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า ราคาขายคอนโดมิเนียมในกรุงโตเกียวยังสูงขึ้นต่อเนื่อง และในบางยูนิตถูกขายไปในราคาที่มากกว่า 3 เท่า ของราคาขายนับตั้งแต่เริ่มก่อสร้างเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งนักลงทุนต่างชาติแสดงความสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากความสามารถในการจ่ายได้ เมื่อเทียบกับหลายเมืองใหญ่ในโลก โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์รอบ ๆ โครงการที่มีการรื้อถอนและฟื้นฟูขึ้นมาใหม่กำลังได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
บริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ Tokyo Kantei ตรวจสอบราคาเสนอขายโดยเฉลี่ยสำหรับคอนโดมิเนียมอายุ 10 ปีในกรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบตามสถานีรถไฟท้องถิ่น และเทียบราคาเสนอขายโดยเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมอายุ 10 ปีนี้กับราคาขายเมื่อแรกสร้างใหม่ ๆ พบว่าณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2024 ราคาขายอสังหาริมทรัพย์ทำเลรอบสถานีรถไฟโตเกียวสเมโทร (Tokyo’ s Metro) สถานีรปปงงิ-อิตโชเมะ สูงขึ้น 3.69 เท่า, สถานีฮิกาชิ-อิเคะบูโกโระ สูงขึ้น 3.04 เท่า และรอบสถานีชิน-โอชะโนมิซุ สูงขึ้น 3.03 เท่า นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การสำรวจราคาเริ่มขึ้นในปี 2003 พบว่า ขณะนี้ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าตัว
สถานีรปปงงิ คอนโดฯในโครงการแกรนด์ สวีท อาซะบูดาอิ ฮิลท็อป ทาวเวอร์ สร้างแล้วเสร็จในปี 2014 ปัจจุบันราคา 268.31 ล้านเยน หรือราว 64 ล้านบาท จากราคาเสนอขายเฉลี่ย ณ เวลาขายคือ 126.67 ล้านเยนหรือราว 30 ล้านบาท นอกจากปัจจัยใกล้สถานีรถไฟ การเปิดศูนย์การค้าของตึกอะซาบูดาอิตรงข้ามถนนที่ตั้งคอนโดฯยังทำให้สะดวกสบายขึ้นและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินด้วย ส่วนราคาที่เพิ่มขึ้นในบริเวณสถานีฮิกาชิ-อิเคบูคูโระ กรณีตึกบริลเลีย ทาวเวอร์ อิเคบูคูโระ สร้างเสร็จในปี 2015 ราคาเสนอขายโดยเฉลี่ย ณ เวลาขายคือ 79.17 ล้านเยนหรือราว 18 ล้านบาท แต่ราคาห้องชุดขณะนี้ 387.02 ล้านเยนหรือราว 92 ล้านบาท เนื่องจากมีทำเลที่สะดวกสบาย เชื่อมตรงกับสถานีฮิกาชิ-อิเคบูกูโระ ผ่านทางลอดใต้ดินและโครงการที่อยู่ระหว่างรื้อถอนและฟื้นฟูอื่น ๆ รอบสถานีอิเคบูคูโระ เป็นปัจจัยเร่งให้ราคาเพิ่มขึ้นด้วย
คอนโดฯหลายยูนิตที่มีราคาสูงขึ้นอย่างมากสร้างขึ้นในช่วงที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นเริ่มใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในปี 2013 ในช่วงเวลานั้น ราคาที่ดินซบเซา ส่วนหนึ่งเกิดจากเหตุแผ่นดินไหวในภูมิภาคโทโฮคุเมื่อปี 2011 นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอัดฉีดเงินเข้าตลาดเรียล เอสเตต และดีเวลลอปเปอร์หลายรายสร้างคอนโดมิเนียมในไพรมโลเกชั่น
เฮาซิ่ง เจแปน (Housing Japan) โบรกเกอร์ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับลูกค้าต่างชาติระบุว่า ยอดการโอนผ่านบริษัทเพิ่มขึ้นราว 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ในปี 2024 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 “ลูกค้าเอเชียหลายคนสนใจเป็นเจ้าของบ้าน เนื่องจากหากเปรียบเทียบกันในระดับโลก บ้านในญี่ปุ่นราคาไม่แพง ปลอดภัยและมีความเสี่ยงในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ต่ำ” มิตซูโอะ ฮาชิโมะโตะ ซีอีโอเฮาซิ่ง เจแปนกล่าว
เงินเย็นที่อ่อนค่าหลังปี 2023 มีส่วนทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นด้วย เดิมหลายคอนโดในญี่ปุ่นถูกกว่าคอนโดฯในฮ่องกง นิวยอร์กและลอนดอน แต่เงินญี่ปุ่นที่อ่อนค่ากว่า ซึ่งแตะที่ระดับต่ำสุด 160 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ (2024) ทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติสนใจเพิ่มมากขึ้น ต่อมา เงินเยนกลับมาแข็งค่าขึ้นที่ราว 145 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังอยู่ในระดับอ่อนเมื่อเทียบกับช่วงเริ่มปี นอกจากดีมานด์ในประเทศแล้ว เงินต่างชาติที่ไหลเข้าคอนโดฯในโตเกียวทำให้ราคาพุ่งสูง
ราคาเพิ่มสูงขึ้นในคอนโดฯที่มีอยู่แล้วในเขตอูเมดะของนครโอซากา ซึ่งโครงการรื้อถอนและฟื้นฟูคอนโดฯอยู่ระหว่างดำเนินการ พร็อพเพอร์ตี้รอบสถานีเจอาร์ โอซากา ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 2.4 เท่า เมื่อเทียบกับราคาขายแรกสร้างเสร็จ อย่างกรณีโครงการ แกรนด์ ฟรอนต์ โอซากา โอนเนอร์ส ทาวเวอร์สร้างเสร็จปี 2013 ปัจจุบันราคาขาย 202.94 ล้านเยนหรือราว 84 ล้านบาท จากราคาเสนอขายโดยเฉลี่ย ณ เวลาขาย คือ 74.7 ล้านเยนหรือราว 17 ล้านบาท นอกจากนี้ การลงทุนในโรงแรมคึกคักด้วย เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามา ทำให้ราคาคอนโดฯ ทำเลใกล้สถานีรถไฟสูงขึ้น
นายโชโงะ ฟูจิตะ หัวหน้าบริษัทนายหน้า “เรียลเอสเตต เอฟเจ รีเอิลตี้” กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังรุ่งเรืองและนักลงทุนกระหายที่จะซื้อพร็อพเพอร์ตี้ดี ๆ ในทันทีที่เจอ และมีพร็อพเพอร์ตี้รีเซลจำนวนมากที่ขายไปทันทีที่นักลงทุนซื้อ และว่า ราคาคอนโดฯที่สร้างเสร็จแล้วในทำเลดี ๆ อาจมีราคาขายสูงขึ้นต่อไป