“อนามัยโลก” ยอมรับหลักฐานนักวิทย์ 32 ชาติ ชี้ “โควิด-19” แพร่กระจายในอากาศได้

REUTERS/Toby Melville

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ยอมรับว่า มีหลักฐานปรากฎว่าโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 สามารถแพร่กระจายในอากาศได้ หลังจากที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากได้เรียกร้องให้ดับเบิลยูเอชโอทบทวน และปรับปรุงคำแนะนำแนวทางปฏิบัติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสระว่างบุคคลให้สอดคล้องกับหลักฐานใหม่

“มาเรีย ฟาน เคอร์โกโฮฟ” นักระบาดวิทยาของดับเบิลยูเอชโอกล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า “เรากำลังกล่าวถึงความเป็นได้ที่ว่า การแพร่กระจายทางอากาศ (airborne) และผ่านทางละอองลอย (aerosol) ขนาดเล็กในอากาศ นับเป็นหนึ่งในรูปแบบการแพร่ระบาดของโควิด-19”

ก่อนหน้านี้ ดับเบิลยูเอชโอระบุว่า โคโรน่าไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจโควิด-19 จะแพร่กระจายผ่านละอองขนาดเล็กที่ขับออกมาจากร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะทางจมูกหรือปากของผู้มีเชื้อไวรัสในร่างกายผ่านการไอหรือจาม โดยไวรัสจะไม่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศเป็นเวลานานและจะตกลงสู่พื้นในเวลาอันรวดเร็ว

แต่ในจดหมายเปิดผนึกถึงองค์การอนามัยโลกของนักวิทยาศาสตร์ 239 คนจาก 32 ประเทศทั่วโลก ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Clinical Infectious Diseases เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระบุว่า อนุภาคขนาดเล็กของโคโรน่าไวรัสสามารถฟุ้งกระจายและลอยอยู่ในอากาศ และสามารถทำให้ผู้ที่หายใจรับเข้าไปในร่างกายเกิดอาการป่วยติดเชื้อได้

“โฆเซ่ ฆิเมเนซ” นักเคมีจากมหาวิทยาลัยโคโลราโด ระบุว่า “เราต้องการให้พวกเขายอมรับหลักฐาน” พร้อมทั้งเรียกร้องให้ดับเบิลยูเอชโอปรับปรุงคำแนะนำเกี่ยวกับโควิด-19 “นี่ไม่ใช่การโจมตีดับเบิลยูเอชโอ นี่คือการถกเถียงทางวิทยาศาสตร์ เราเพียงรู้สึกว่าเราต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อสาธารณะ เพราะพวกเขาปฏิเสธที่รับฟังหลักฐานของเราในการพูดคุยถกเถียงหลายครั้งที่ผ่านมา”

ด้าน “เบเนเดตตา อัลเลแกรนซี” หัวหน้าฝ่ายเทคนิคการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อของดับเบิลยูเอชโอ ยอมรับว่า ขณะนี้มีหลักฐานปรากฎว่ามีการแพร่กระจายของโคโรน่าไวรัสทางอากาศ แต่ยังคงไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน “มีความเป็นไปได้ที่จะมีการแพร่กระจายทางอากาศในพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะในพื้นที่ปิด แออัด และอากาศไม่สามารถถ่ายเทได้สะดวก แต่ยังคงจำเป็นต้องมีการรวบรวมและตีความหลักฐานอีกครั้ง และเราจะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง”

แต่ฆิเมเนซยังระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้แนวคิดเรื่องการแพร่กระจายของไวรัสทางอากาศถูกต่อต้านอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลว่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในวงกว้าง “หากผู้คนรับทราบเรื่องการแพร่ระบาดทางอากาศ เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขอาจจะปฏิเสธการปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาล หรือผู้คนจำนวนมากอาจไปซื้อกักตุนหน้ากากอนามัยเอ็น 95 หรืออุปกรณ์ป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพสูงจนหมด ไม่มีเหลือสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในประเทศกำลังพัฒนา”

นอกจานี้ ฆิเมเนสยังวิพากษ์วิจารณ์ว่า คณะกรรมการของดับเบิลยูเอชโอที่ทำหน้าที่ประเมินหลักฐานของการแพร่กระจายทางอากาศ ไม่มีความหลากหลายของตัวแทนผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ และยังขาดผู้เชี่ยวชาญด้านการแพร่กระจายของละอองลอยในอากาศด้วย

ทั้งนี้ ฟาน เคอร์โกโฮฟระบุว่า องค์การอนามันโลกจะเปิดเผยข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ถึงสถานะขององค์ความรู้ในปัจจุบัน เกี่ยวกับรูปแบบการแพร่กระจายของโคโรน่าไวรัสในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ซึ่งเป็นที่จับตาว่า อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำของดับเบิลยูเอชโอจากปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอีกหลายภาคส่วน อย่างเช่นคำแนะนำเรื่องการเว้นระยะห่างอย่าน้อย 1 เมตร ซึ่งรัฐบาลทั่วโลกใช้เป็นข้ออ้างอิงในการกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้