หน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของยุโรปดำเนินการตรวจสอบวัคซีนโควิดของ “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” หลังมีการรายงาน เกิดผู้ที่มีอาการภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือด และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ทั้งหมด 4 คน
วันที่ 11 เมษายน 2564 สำนักข่าวดิ การ์เดี้ยน รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของยุโรป (EMA) กำลังดำเนินการตรวจสอบวัคซีนโควิดของ “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” (Johnson & Johnson) หลังมีการรายงานถึงเกิดผู้ที่มีอาการภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือด และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หลังจากการจากฉีดวัคซีนนี้
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ทางหน่วยงานแถลงการณ์ว่า มีการรายงานถึง 4 คนที่มีอาการดังกล่าว โดยมีผู้เสียชีวิต 1 คน หลังจากฉีดวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งผลิตโดยบริษัท แจนส์เซน ฟาร์มาซูติคอลส์ (Janssen Pharmaceuticals)
ขณะเดียวกัน ทางบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ระบุว่า ได้รับรู้ถึงรายงานว่า วัคซีนของบริษัทอาจทำให้เกิดอาการลิ่มเลือด และกำลังร่วมงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อหาข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ดี ทางบริษัทยังยืนยันว่าตอนนี้ วัคซีนของบริษัทไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงดังกล่าว
วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันแตกต่างจากวัคซีนโควิดอื่น ๆ อย่างของไฟเซอร์, โมเดอร์นา และแอสตร้าเซนเนก้า เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ต้องฉีดเพียงโดสเดียวต่อคน ขณะที่เจ้าอื่นต้องฉีดวัคซีน 2 โดส
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานได้ระบุว่า วัคซีนโควิดของบริษัท “แอสตร้าเซนเนก้า พีแอลซี” นำมาสู่การเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ แต่จะพบได้ยากมาก
โดยบางประเทศภายในยุโรป ได้จำกัดอายุขั้นต่ำ ผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า เนื่องจากเป็นโรคที่มักพบในคนที่อายุยังน้อย