“สี จิ้นผิง” เรียกร้องให้กลุ่มคนหรือธุรกิจที่มีรายได้สูง ตอบแทนสังคมมากยิ่งขึ้น มุ่งตามแนวคิด “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”
วันที่ 18 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ออกแถลงการณ์ที่งานประชุมทางการเงิน และเศรษฐกิจประเทศ โดยเรียกร้องให้กลุ่มคน หรือธุรกิจที่มีรายได้สูง “ตอบแทนสังคม” มากยิ่งขึ้น มุ่งตามแนวคิด “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” (common prosperity)
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
ทั้งนี้ “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ถือเป็นแนวคิดที่ถูกกล่าวถึงในแวดวงการเมืองจีนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยทางการระบุว่า แนวคิดดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่า ความเจริญรุ่งเรืองอยู่กับเพียงไม่กี่คน รวมถึงไม่ใช่วิธีการแบ่งรายได้ให้เท่าเทียมกัน แต่เป็นการที่ทุกคนมี “ความรุ่งเรืองในระดับปานกลาง”
อย่างไรก็ดี “ยูว์ ซู” ประธานนักเศรษฐศาสตร์ เดอะ อีโคโนมิกส์ อินเทเลเจนซ์ ยูนิท กล่าวว่า แนวคิด “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ซึ่งอาจนำมาสู่การขึ้นอัตราภาษีกลุ่มคน และธุรกิจรายได้สูง อาจจะนำมาสู่การลงทุนที่ช้าลง รวมถึงเงินทุนที่ไหลออกนอกประเทศ ซึ่งคงทำให้ทางรัฐบาลจีน จะนึกถึงผลกระทบดังกล่าว ก่อนออกนโยบายสนับสนุนการที่ทุกคน มีความรุ่งเรืองในระดับปานกลาง
ทั้งนี้ ความไม่เท่าเทียมทางรายได้ของประชากรจีน 1.4 พันล้านคน เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา “โทมัส พิกเกที” ศาสตราจารย์ จากปารีส สกูล ออฟ อีโคโนมิกส์ คาดการณ์ว่า กลุ่มประชากรจีนที่มีรายได้สูงติดท็อป 10% มีรายได้คิดเป็น 41% ของรายได้ทั้งประเทศเมื่อปี 2015 จากเดิมที่มีรายได้เพียง 27% เมื่อปี 1978