WHO หวั่นประเทศร่ำรวยกักตุนวัคซีนรับมือโอไมครอน

WHO หวั่นประเทศร่ำรวยตุนวัคซีน
ภาพจากเฟซบุ๊ก CVC กลางบางซื่อ

องค์การอนามัยโลกหวั่นประเทศร่ำรวยแห่กักตุนวัคซีนรับมือกับการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 

วันที่ 10 ธันวาคม 2564 อัลจาซีราห์รายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าประเทศร่ำรวยอาจเริ่มกักตุนวัคซีนป้องกันโควิด-19 อีกครั้ง เพื่อรับมือกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งอาจส่งผลต่อการจัดหาวัคซีนทั่วโลก

“เคท โอไบรอัน” ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิคุ้มกัน วัคซีนและชีววิทยาขององค์การอนามัยโลก แสดงความเห็นดังกล่าวในช่วงที่โครงการแบ่งปันวัคซีน ซึ่งดำเนินการโดย WHO และองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนกาวี (Gavi) ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ เนื่องจากการบริจาคของประเทศร่ำรวย และหลังจากอินเดียผ่อนคลายข้อจำกัดในการส่งออกวัคซีน

การเคลื่อนไหวของทางการอินเดียทำให้สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียกลับมาดำเนินการจัดส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอีกครั้ง เพื่อจัดส่งให้กับโครงการโคแวกซ์

“เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า การจัดส่งวัคซีนให้มากขึ้น จะดำเนินต่อไป” โอไบรอันกล่าว

“ไม่ว่าสถานการณ์ของโอไมครอนจะเป็นอย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่การจัดหาวัคซีนทั่วโลกจะกลับมาสู่ภาพที่ประเทศรายได้สูงกักตุนวัคซีนอีกครั้ง เพราะต้องการรักษาความสามารถในการฉีดวัคซีนให้กับพลเมือง” เธอกล่าวในภายหลัง

โอไบรอันยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาสำคัญของโคแวกซ์คือประเทศร่ำรวยบริจาควัคซีนที่มีอายุการเก็บรักษาค่อนข้างสั้น พร้อมกับชี้ว่าอัตราการใช้วัคซีนอย่างสิ้นเปลืองเกิดขึ้นสูงในบางประเทศร่ำรวย

โคแวกซ์ได้จัดส่งวัคซีน 610 ล้านโดสให้กับ 144 ประเทศและดินแดน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามข้อมูลกาวี

ขณะเดียวกัน “จอห์น เอ็งเคนกาซอง” ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา กล่าวว่า หลายรัฐบาลในแอฟริกาจะไม่มีทางเลือก เว้นแต่จะใช้คำสั่งฉีดวัคซีน หากพลเมืองในประเทศไม่รีบไปฉีดวัคซีนที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ปริมาณวัคซีนบริจาคถูกส่งไปยังแอฟริกามากขึ้น แต่ความลังเลในการฉีดวัคซีนและอายุการเก็บรักษาที่สั้นของวัคซีน ได้สร้างแรงกดดันให้กับหลายรัฐบาลในแอฟริกา และแอฟริกายังเป็นทวีปที่มีการฉีดวัคซีนน้อยที่สุดในโลก โดยมีประชากรไม่ถึง 8% ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน