โอไมครอนแพร่ไวกว่าคาด สหรัฐพบติดเชื้อใหม่ 73% จากทั่วประเทศ

Photo by Daniel SLIM / AFP

CDC เผยโอไมครอนแพร่ไวกว่าที่คิด เป็นพันธุ์หลักของประเทศ ผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นสัดส่วนถึง 73% ของผู้ติดเชื้อที่พบในสหรัฐ

วันที่ 21 ธันวาคม 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือ CDC เปิดเผยว่า ขณะนี้ไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนได้กลายเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในประเทศแล้ว โดยเพียงสัปดาห์เดียวหน่วยควบคุมโรคสหรัฐ พบว่าในบรรดาผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ของประเทศ จำนวนนี้ 73.2% เป็นการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านั้นที่อัตราติดเชื้อโอไมครอนอยู่ที่ราว 12.6% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด เมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้หรือวันที่ 11 ธันวาคม ขณะที่เดลต้าอยู่ที่ 87% และในช่วงเวลาเดียวกัน

ตัวเลขดังกล่าวนับจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์เดลต้าเพิ่มขึ้นเพียง 26.6% โดยก่อนหน้านี้ CDC สหรัฐประเมินวาผู้ติดเชื้อโอไมครอนอยู่ที่เพียง 3% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขติดเชื้อจริงหลายเท่า

ซีดีซียังเผยอีกว่า อัตราการติดเชื้อไวรัสโอไมครอนส่วนใหญ่ของประเทศขณะนี้กว่า 90% พบอยู่แถบมลรัฐฝั่งแปซิฟิก ตะวันตกเฉียงเหนือ ตอนใต้และบางส่วนของมิดเวสต์ ตามลำดับ

อัตราการแพร่ระบาดอันรวดเร็วของเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอนทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลต่อช่วงเทศกาลวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขได้ออกมาร้องขอให้ชาวอเมริกันเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นการด่วน เพื่อป้องกันทั้งตนเองและชุมชน เนื่องจากอัตราของโอกาสในการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ เจน ซากี โฆษกประจำทำเนียบขาว ได้ระบุในตอนหนึ่งของการแถลงข่าวประจำวันโดยยืนยันว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่มีแผนที่จะประกาศล็อกดาวน์คุมเข้มโควิดในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ทั้งยังย้ำถึงประโยชน์ในการเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างทั่วถึง