แอร์เมสฉาวของสาวสูงวัย รอสมาห์ มานซอร์ เจ้าแม่กระเป๋าแบรนด์หรูผู้ทำให้สามีถูกคดีทุจริต
วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ชื่อของ “แอร์เมส” (Hermes) แบรนด์เครื่องหนังระดับไฮเอนด์สัญชาติฝรั่งเศส ได้กลายเป็นที่รู้จักวงกว้างของสังคม จากกรณีดราม่า “กระเป๋าแอร์เมส” รุ่นคอนสตอง (Hermes constance) ระหว่าง “ทีน่า” หรือ “สรพงษ์” เจ้าของร้านรับซื้อแบรนด์เนมออนไลน์ กับน้องชมพู่เจ้าของกระเป๋าแอร์เมสใบดังกล่าว
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
หากพูดถึงกระเป๋าแอร์เมส ถือเป็นแบรนด์เครื่องหนังไฮระดับลักชูรี่ที่สาวๆ ต่างหมายปอง โดยรุ่นที่มีราคาถูกสุดคือ Aline Mini Bag สนราคาเริ่มต้นราว 1,800 ดอลลาร์ แต่ถ้าเป็นรุ่นสุดฮิตซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นวงกว้างคือ แอร์เมส เบอร์กิ้น (Birkin) แค่ราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่ประมาณ 9,000 ดอลลาร์หรือราว 3 แสนบาทแล้ว ยิ่งหากเป็นรุ่นหายากสุดแรร์ไอเทมอย่าง Himalaya Birkin ราคาอาจพุ่งไม่น้อยกว่า 5 แสนดอลลาร์
ว่ากันว่า หากใครเป็นเจ้าของแอร์เมสเบอร์กิ้นสักใบ คนเหล่านั้นย่อม “ไม่ธรรมดา” แต่หากคุณเป็นเจ้าของแอร์เมสเบอร์กิ้นรุ่นลิมิเตด คุณอาจเป็น 1% ของกลุ่มคนที่ไม่ธรรมดา
ย้อนไปเมื่อ 2561 ชื่อของแบรดน์แอร์เมส เคยปรากฎเป็นที่สนใจของสังคมเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียเช่นกัน สมัยที่นาจิบ ราซัก สามีของ “นางรอสมาร์ มานซอร์” (Rosmah Mansor) ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขณะนั้นสังคมมาเลย์น้อยคนนักที่จะรู้จักแบรนด์แอร์เมส หรือรู้มูลค่าของแอร์เมส์เบอร์กิ้นรุ่นที่นางรอสมาห์ครอบครอง นางรอสมาห์เป็นเจ้าของกระเป๋าแบรนด์เนมหรูหลายใบ หนึ่งในนั้นคือ แอร์เมส เบอร์กิ้น หิมาลายัน (Hermes Birkin Himalayan) แถมเป็นรุ่นพิเศษหนังจระเข้อะไหล่ฝังเพชรแท้ ราคาใบละกว่า 7 ล้านบาท
ทันทีที่นางรอสมาห์ถือกระเป๋าหรูใบนี้ออกงานสังคม “ซูนาร์ อันวาร์ อุลฮาเก” นักวาดการ์ตูนล้อการเมือง ได้ตีพิมพ์ภาพการ์ตูนที่เสียดสีถึงไลฟ์สไตล์อันหรูหราของภรรยานายกรัฐมนตรี ก่อให้เกิดกระแสสังคมพร้อมกับการตั้งคำถามว่า นายกรัฐมนตรีมาเลย์ซึ่งเป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนราว เดือน 6,544 ริงกิต หรือ 9,190 ดอลลาร์ต่อเดือน สามารถซื้อกระเป๋ามูลค่าสูงตั้งแต่ 11,900 ดอลลาร์ ถึง 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อย่างไร ?
กระเป๋าแอร์เมสเพียงใบเดียว สามารถจุดชนวนพลิกขั้วการเมืองมาเลเซียได้ในชั่วพริบตา หลังจากที่แนวร่วมพรรคปากาตัน ฮาราปัน ที่นำโดยอดีตนายกมหาเธร์ โมฮัมหมัด ชนะการเลือกตั้งปี 2561 ความพ่ายแพ้ของพรรคอัมโน (UMNO) นำไปสู่การเปิดฉากสอบสวน มหากาพย์ทุจริตโครงการกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติวันมาเลเซียเบอร์ฮาด หรือ วันเอ็มดีบี (1 MDB)
ไม่เพียงสังคมมาเลเซียจะให้ความสนใจในคดีทุจริตวันเอ็มดีบี แต่สื่อทั่วโลกต่างให้ความสนใจขุดคุ้ยเบื้องลึกเบื้องหลังคดีฉาวระดับโลกนี้เช่นกัน เดือนพฤษภาคมปี 61 ตำรวจมาเลเซียบุกตรวจค้นคอนโดมิเนียมหรู ซึ่งหนึ่งในทรัพย์สินที่ครอบครัวของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคเป็นเจ้าของ พร้อมขนกล่องที่บรรจุกระเป๋าถือแบรนด์หรูถึง 284 กล่อง กระเป๋าอีก 72 ใบที่เต็มไปด้วยเครื่องเพชรอัญมณี รวมถึงเงินสด นาฬิกา และของมีค่าอีกหลายรายการ ถือเป็นการตรวจยึดทรัพย์สินล็อตใหญ่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองมาเลย์ ตำรวจต้องนำรถบรรทุกถึง 5 คัน มาขนทรัพย์สินที่ยึดได้ จำนวนนี้มีกล่องสีส้มอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์แอร์เมส หลายร้อยกล่อง ซึ่งบรรจุแอร์เมสหลากหลายรุ่น รวมถึงแอร์เมสเบอร์กิ้นรุ่นหายากหลายใบ
สิบปีก่อน ช่วงที่ผู้เป็นสามีดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นางมานซอร์ ถือเป็นสุภาพสตรีที่ได้รับการนับหน้าถือตาในแวดวงสังคมมาเลเซียอย่างมาก ทว่าด้วยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนานหลายสมัยของนาจิบ ราซัก พร้อมกับกรณีมหากาพย์โกงเงินลงทุนของชาติ ภาพลักษณ์เธอกลับกลายเป็นสตรีที่สังคมวิจารณ์เดือดดาล การถือครองกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูหลายใบ ราคาใบละหลายล้านนั้น หากเธอรวยด้วยการทำธุรกิจหรือสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตนเอง คงไม่มีใครให้ความสนใจ ทว่าเธอเป็นเพียงสตรีว่างงานที่ออกงานสังคมเดินเคียงข้างผู้เป็นสามีเท่านั้น สังคมมาเลย์จึงให้ความสนใจไลฟ์สไตล์อันฟุ้งเฟ้อว่าครอบครัวนาจิบ ราซัก อาจกำลังมีเบื้องหน้าเบื้องหลังการโกงเงินแผ่นดินผ่านโครงการลุงทุนที่ตั้งขึ้นเพื่อบังหน้า
เรื่องราวไลฟ์สไตล์อันหรูหราของนางมานซอร์ ทำให้หลายฝ่ายอดนึกถึงกรณีรองเท้าพันคู่ของนางอีเมลดา มาร์กอส ภริยาของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส แห่งฟิลิปินส์ สื่อใหญ่บางแห่งของมาเลเซียถึงขั้นให้ฉายาว่า “อิเมลดาแห่งมาเลเซีย” หลังถูกไต่สวนพร้อมยึดทรัพย์ อดีตภริยานายกรัฐมนตรีมาเลเซียถูกตั้งข้อหามากกว่า 17 กระทง แต่เธอยื่นประกันตัวด้วยเงินสด 2 ล้านริงกิต หรือราว 16 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขห้ามเดือนทางออกนอกประเทศ ส่วนนายนาจิบผู้เป็นสามี ถูกตั้งข้อหามากกว่า 20 กระทง ทำให้นางมันซอร์ วัย 70 ปี พร้อมสามีต้องใช้ชีวิตขึ้นศาลต่อสู้คดีความอีกยาวนาน