ฮ่องกงเร่งตรวจหาเชื้อโควิดในเนื้อสัตว์นำเข้าจากต่างประเทศ หลังพบเชื้อโควิดจากตัวอย่างบรรจุภัณฑ์เนื้อวัว และหนังหมู
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 แชนแนลนิวส์เอเชียรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฮ่องกงเผยว่า พวกเขาพบเชื้อไวรัสโคโรนาในตัวอย่างที่นำมาจากบรรจุภัณฑ์เนื้อวัวแช่แข็งจากบราซิล และหนังหมูแช่แข็งจากโปแลนด์ โดยหลังจากนี้ทางฮ่องกงจะเพิ่มการตรวจสอบอาหารนำเข้าให้มากขึ้น
- กรมอุตุฯเตือน 6-11 พ.ค.นี้ ฝนตกหนักหลายพื้นที่ รวม กทม.และปริมณฑล
- ธ.ก.ส. เผย สินเชื่อดอกเบี้ยล้านละร้อย เหลือวงเงินกู้อีก 1.5 หมื่นล้าน
- กรมอุตุฯเตือน 6-12 พ.ค.นี้ ลมเปลี่ยนทิศ-แปรปรวน ฝนตกหนัก ท่วมฉับพลัน
ฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์การเงินระดับโลก ใช้นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” เช่นเดียวกับจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการระบาดของโควิด โดยเจ้าหน้าที่ในฮ่องกงกำลังทำงานภายใต้การเตือนภัยในระดับสูง เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่เริ่มควบคุมได้ยากขึ้น
จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในฮ่องกงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7,533 รายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเกินขีดความสามารถในการตรวจหาเชื้อ โรงพยาบาล และระบบกักตัวของรัฐบาล
ศูนย์ความปลอดภัยด้านอาหาร (ซีเอฟเอส) ได้เก็บ 36 ตัวอย่างเพื่อนำมาทดสอบ จากเนื้อวัวแช่แข็งประมาณ 1,100 กล่อง น้ำหนักรวม 29 ตัน ซึ่งนำเข้ามาจากบราซิลทางทะเล พบว่าตัวอย่างที่นำมาจากด้านนอกของบรรจุภัณฑ์ 1 ตัวอย่าง และ ตัวอย่างที่นำมาจากด้านในบรรจุภัณฑ์ 2 ตัวอย่าง มีผลทดสอบเป็นบวก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเก็บอีก 12 ตัวอย่างจากหนังหมูแช่แข็งประมาณ 300 กล่อง ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 7 ตัน ที่นำเข้ามาจากโปแลนด์ทางทะเล พบว่ามี 1 ตัวอย่างที่เก็บจากบรรจุภัณฑ์ชั้นใน ตรวจพบเชื้อโควิด
“ซีเอฟเอสได้สั่งให้ผู้นำเข้าที่เกี่ยวข้องกำจัดเนื้อวัวและหนังหมูที่เป็นชุดเดียวกับที่พบเชื้อ” รัฐบาลฮ่องกงกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า “ซีเอฟเอสจะเพิ่มการสุ่มตรวจตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันต่อไป”
ฮ่องกงตรวจสอบเชื้อโควิดกับอาหารแช่แข็งตั้งแต่กลางปี 2563 และพบเชื้อบนตัวอย่างบรรจุภัณฑ์ปลาจะละเม็ด เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 และบนบรรจุภัณฑ์ปลาหมึก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564
เจ้าหน้าที่เผยว่า ส่วนใหญ่โควิดจะติดต่อผ่านละอองฝอย และไม่สามารถระบาดในอาหารหรือบรรจุภัณฑ์อาหารได้ และไม่น่าจะแพร่เชื้อสู่มนุษย์ผ่านการบริโภคอาหารได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แนะนำประชาชนให้แยกอาหารดิบต่างหาก พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎอนามัย และปรุงอาหารให้สุก