เฟซบุ๊ก-อินสตาแกรม อนุญาตผู้ใช้บางประเทศโพสต์แช่งปูติน

เฟซบุ๊ก อนุญาตให้โพสต์เปิดโปงความรุนแรงในการบุกของรัสเซีย
FILE PHOTO: REUTERS/Dado Ruvic/Illustration

“เมตา” ยักษ์เทคโนโลยี ยอมผ่อนปรนนโยบายชั่วคราว เพื่อให้ผู้ใช้ในยุโรปตะวันออกและภูมิภาคคอเคซัส สามารถโพสต์คำพูดสร้างความเกลียดชังในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมได้ 

วันที่ 11 มีนาคม 2565 เดอะการ์เดียนรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมในบางประเทศ จะได้รับอนุญาตให้โพสต์เรียกร้องให้ใช้ความรุนแรงต่อรัสเซียและทหารรัสเซีย ในบริบทของการบุกยูเครนของรัสเซีย หลังจาก “เมตา” บริษัทแม่ของทั้งสองแพลตฟอร์มประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้คำพูดสร้างความเกลียดชังเป็นการชั่วคราว

ข้อมูลจากอีเมลที่ส่งถึงผู้ดูแลเนื้อหาของบริษัทระบุด้วยว่า เมตายังอนุญาตให้โพสต์บางข้อความที่เป็นการแช่ง “วลาดีมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย และ “อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก” ประธานาธิบดีเบลารุส ให้ถึงแก่ความตาย ในหลายประเทศ เช่น รัสเซีย ยูเครน และโปแลนด์

เมตาระบุในแถลงการณ์ว่า “เนื่องจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย เราได้อนุญาตให้ใช้รูปแบบการแสดงออกทางการเมืองต่าง ๆ ซึ่งปกติแล้วเป็นการละเมิดกฎของเรา เช่น คำพูดที่รุนแรงอย่าง “ขอให้ผู้บุกรุกชาวรัสเซียไปตาย” แต่เราไม่อนุญาตให้มีการโพสต์เนื้อหาความรุนแรงต่อพลเรือนชาวรัสเซีย” โฆษกของเมตากล่าวในแถลงการณ์

การแช่งให้สองผู้นำทั้งสองถึงแก่ความตายจะได้รับการอนุญาต โดยห้ามระบุสถานที่หรือวิธีการ

การเปลี่ยนแปลงนโยบายชั่วคราวนี้จะมีผลในอาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน เอสโตเนีย จอร์เจีย ฮังการี ลัตเวีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ โรมาเนีย รัสเซีย สโลวาเกีย และยูเครน

ในอีเมลที่ส่งถึงผู้ดูแลเนื้อหา เมตายังเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้คำพูดสร้างความเกลียดชัง ที่เกี่ยวข้องกับทหารรัสเซียและรัสเซียในบริบทของการบุกยูเครน

“เราทำเช่นนี้เนื่องจากเราสังเกตว่าในบริบทที่มีความเฉพาะเจาะจงนี้ ทหารรัสเซียกำลังถูกใช้เป็นตัวแทนของกองทัพรัสเซีย

ขณะที่สถานทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯหยุดความเคลื่อนไหวสุดโต่งของเมตา และดำเนินมาตรการเพื่อนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

โซเชียลมีเดียกับการปรับตัวต่อสงคราม

อัลจาซีราห์รายงานว่า แพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่างต้องจัดการกับปัญหามากมายที่เกี่ยวข้องกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน เช่น เมื่อวุฒิสมาชิกสหรัฐ “ลินด์ซีย์ เกรแฮม” เรียกร้องให้ลอบสังหารประธานาธิบดีรัสเซีย “วลาดิมีร์ ปูติน” ในการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์และบนทวิตเตอร์ ซึ่งทวิตเตอร์ไม่ได้ลบข้อความออกไป

ด้านเมตา ตัดสินใจในมุมมองที่มีความแตกต่างกันอย่างมาก

“อีเมอร์สัน บรูคกิง” ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิดเบือนข้อมูลที่ Digital Forensic Research Lab ของสภาแอตแลนติกกล่าวว่า นโยบายดังกล่าวเรียกร้องให้ใช้ความรุนแรงต่อทหารรัสเซีย เพราะชาวยูเครนต่อต้านการบุกรุกอย่างรุนแรง

แต่บางคนแสดงความกังวลอย่างลึกซึ้ง รวมถึงศาสตราจารย์ “เจเรมี ลิททัว” จากมหาวิทยาลัย Lehigh ที่โพสต์บนทวิตเตอร์ว่า “’เราไม่อนุญาตให้มีการใช้คำพูดสร้างความเกลียดชังโดยเฉพาะกับคนบางกลุ่ม หรือจากประเทศใดประเทศหนึ่ง นี่ถือเป็นหนอนบ่อนไส้แบบหนึ่ง”

เฟซบุ๊กและยักษ์เทครายอื่นของสหรัฐฯ ได้เริ่มลงโทษรัสเซียจากากรบุกรุกยูเครน เช่น แอปเปิล และ ไมโครซอฟท์ ได้ประกาศว่าพวกเขากำลังระงับการขายผลิตภัณฑ์ของตนในรัสเซีย ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ ได้ประกาศ “พัก” กิจกรรมทางธุรกิจหรือความสัมพันธ์ต่อรัสเซีย

หรือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Cogent Communications ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ กล่าวว่า “ได้ยุติสัญญาที่ทำกับลูกค้าที่เรียกเก็บเงินจากรัสเซียแล้ว”

รัสเซียกับสงครามบนโลกออนไลน์

ในขณะเดียวกัน รัสเซียได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อบล็อกการเข้าถึงเครือข่าย เฟซบุ๊ก โดยเข้าร่วมกับกลุ่มประเทศเล็ก ๆ ที่ยกเว้นเครือข่ายโซเชียลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ร่วมกับจีนและเกาหลีเหนือ

รัฐบาลรัสเซียยังเข้มงวดกับการวิพากษ์วิจารณ์บนสื่อต่าง ๆ แม้ว่าขณะนี้เสรีภาพในประเทศจะลดลงอย่างรวดเร็วแล้วก็ตาม


รัสเซียยังบล็อกเฟซบุ๊กและจำกัดการใช้ทวิตเตอร์ภายในวันเดียวกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกำหนดโทษจำคุกในสื่อที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับกองทัพ