“ชราธิปไตย” ไม่เหมาะกับ ประชาธิปไตย ตามความเห็นของ อีลอน มัสก์ เพราะไม่อาจสะท้อนหรือรับฟังเสียงของคนหลายรุ่นได้ งานนี้ฟาดตรงๆ ถึงประธานาธิบดีวัย 79 ปีของสหรัฐ
วันที่ 28 มีนาคม 2565 บิสิเนส อินไซเดอร์ รายงานความเห็นทางการเมืองของ อีลอน มัสก์ ซีอีโอ บริษัท เทสลา ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเจ้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ว่า สหรัฐมีผู้นำที่ชรามากๆๆ จนน่าสงสัยว่าจะติดต่อสื่อสารกับคนได้อย่างไร ถ้าวัยห่างจากประชากรส่วนใหญ่หลายชั่วอายุคน
- หวยงวด 2 พ.ค. เช็กสถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
มัสก์แสดงความเห็นดังกล่าวขณะสนทนากับ มาธิอัส เดิพฟ์เนอร์ ซีอีโอกลุ่มสื่อ Axel Springer บริษัทแม่ของ Insider ระหว่างการให้สัมภาษณ์ที่โรงงานเทสลาในเมืองฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
ซีอีโอเทสลาแตะทุกประเด็นตั้งแต่ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ในแง่คาดการณ์ว่าต้องร่ำรวยกว่าตนอย่างแน่นอน แม้ว่ามัสก์จะแซง เจฟฟ์ เบโซส แห่งแอมะซอน ขึ้นไปครองตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลก ประจำปี 2021 (พ.ศ.2564) ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 260,000 ล้านดอลลาร์
“ผมมั่นใจว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน รวยกว่าผมอย่างแน่นอน” มัสก์กล่าวถึงผู้นำรัสเซีย ก่อนหันมาวิจารณ์ผู้นำสหรัฐ ว่าไม่ได้สัมผัสกับประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยความสูงวัย
ซีอีโอฝีปากกล้า กล่าวถึงเรื่องนี้ที่เริ่มด้วยประเด็นว่า มนุษย์มีอายุขัยยืนยาวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่มัสก์เห็นว่าการมีอายุขัยมากขึ้นก็ไม่ได้ดีเสมอไป แม้ตนอยากมีสุขภาพดีไปอีกนานๆ และไม่กลัวตาย ซึ่งน่าจะบรรเทาความกลัวตายได้
“ผมไม่คิดว่าเราควรพยายามต้องทำให้คนมีชีวิตยืนยาวนะ เพราะนั่นจะทำให้เกิดสังคมที่หายใจไม่ออก เพราะความจริงคือคนส่วนใหญ่เปลี่ยนความคิดไม่ได้ เพียงแต่เสียชีวิตได้ ถ้าพวกเขาไม่เสียชีวิต เราก็จะติดอยู่กับวังวนของความคิดโบราณและสังคมไม่ก้าวหน้า”
จากนั้น มัสก์ตั้งประเด็นต่อว่า “ชราธิปไตย” หรือ รัฐที่ควบคุมโดยกลุ่มคนสูงวัยซึ่งแก่กว่าประชาชนส่วนใหญ่และสุขภาพเสื่อมถอยลง ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
มัสก์กล่าวว่าตนคิดเรื่องชราธิปไตยอย่างจริงจัง เพราะหลายๆ ประเทศมีผู้นำสูงวัย ส่วนสหรัฐอเมริกา มีผู้นำที่ชรามากๆ ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าถึงประชาชนซึ่งมีอายุห่างจากผู้นำสูงวัยหลายเจเนอเรชั่น
“บรรดาผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง แต่ไม่ได้กำหนดเกณฑ์อายุสูงสุดของคนเป็นผู้นำไว้ เพราะคงไม่ได้คาดว่าคนเราจะมีชีวิตยืนยาวขนาดนั้น ทั้งที่ควรกำหนดว่าไม่ควรมีอายุเกินเท่าไหร่
เนื่องจากระบอบประชาธิปไตยจะเดินหน้าได้ ต้องอาศัยผู้นำที่เข้าถึงประชาชน หากผู้นำอายุน้อยหรือมากเกินไป ก็จะไม่มีความสัมพันธ์กับประชาชน” ซีอีโอ เทสลา ให้ความเห็น และว่าอยากจะเห็นผู้นำทางการเมืองที่มีอายุไล่เลี่ยกับประชากรโดยเฉลี่ยประมาณ 10-20 ปี
ตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนบริหารประเทศ มัสก์ก็เริ่มวิจารณ์ผู้นำ วัย 79 ปี เรื่องความล้มเหลวของไบเดน เช่น การต่อสู้กับภาวะโลกร้อน รวมถึงการที่เทสลาเป็นประเด็นพูดถึงไปทั่วประเทศเรื่องรถพลังงงานไฟฟ้า แต่กลับไม่อยู่ในสายตาของผู้นำสหรัฐ
เมื่อเดือน ม.ค. มหาเศรษฐีทวีตข้อความรุนแรงตำหนิไบเดนว่าเป็นหุ่นเชิดในร่างมนุษย์
ต่อมา เดือนก.พ. ประธานาธิบดีกล่าวถึงเทสลา ว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด หลังจากถูกวิจารณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ยอมรับบริษัทในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์