ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงมากสุดในรอบ 7 ปีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังธนาคารกลางญี่ปุ่นเสนอให้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี
วันที่ 29 มีนาคม 2565 สื่อต่างประเทศรายงานว่า เงินเยนของญี่ปุ่นร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงผ่อนคลายนโยบายทางการเงินอย่างจริงจัง แตกต่างจากท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- ปรับเงินเพิ่มค่าครองชีพ ข้าราชการ 4 กลุ่ม เริ่ม 1 พ.ค.นี้
- แจกเงิน 1 หมื่น เปลี่ยนเงื่อนไข คนทั่วไปใช้ได้เฉพาะร้านค้าขนาดเล็ก-ร้านสะดวกซื้อ
เงินเยนอ่อนค่าลงมากถึง 2.5% ที่ 125.09 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นับว่าอ่อนค่าที่สุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 ก่อนจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 123.85 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เสนอให้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี แบบไม่จำกัดจำนวน เป็นครั้งแรก ในช่วง 3 วันข้างหน้า โดยให้อัตราผลตอบแทนสูงสุด ท่ามกลางการเทขายหนี้ทั่วโลก และการประกาศขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ความมุ่งมั่นของ “ฮารุฮิโกะ คูโรดะ” ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ที่จะดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ กับผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นเพิ่มมากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2562
ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงมากกว่า 7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในบรรดาคู่แข่งรายใหญ่ ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่มากขึ้น จะยิ่งทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอีก
“จอห์น ฮาร์ดี” หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านสกุลเงินของธนาคารแซกโซ ธนาคารเพื่อการลงทุนของเดนมาร์ก มองว่า ตราบใดที่อัตราผลตอบแทนทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และธนาคารกลางญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนตลาดตราสารหนี้อย่างไม่จำกัด ความกดดันให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าจะยังคงดำเนินต่อไป
เขากล่าวอีกว่า แนวต้านที่สำคัญต่อไปคือเงินเยนอ่อนค่าลงมากสุดในรอบเกือบ 20 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 125.83 เท่ากับปี 2558
ขณะที่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบเยน ณ วันที่ 29 มี.ค. 2565 (เวลา 17.30 น.) ตามรายงานของธนาคารกรุงเทพ พบว่าอยู่ที่ 27.46 บาท/ 100 เยน ซึ่งนับเป็นอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าที่สุดในรอบ 5 ปี