รัสเซียชี้ชาติตะวันตกมัวแต่แซงก์ชั่น ยึดเงินรัสเซียไป ทำให้ชาติอื่นหวาดผวาและเริ่มคิดใหม่ จนส่งผลกระทบต่อเงินดอลล์และยูโร ลดความสำคัญลงไปโดยปริยาย
วันที่ 1 มิถุนายน 2565 สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานเนื้อหาการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจธนาคารกลางรัสเซีย ว่าบทบาทของสกุลเงินดอลลาร์และยูโรจะลดน้อยถอยลง หลังจากธนาคารกลางชาติต่างๆ เริ่มคิดใหม่ เมื่อเห็นสิ่งที่ชาติตะวันตกกระทำต่อรัสเซีย ด้วยการอายัดเงินสำรองระหว่างประเทศ
การคิดใหม่ดังกล่าว อย่างน้อยคือการตั้งอัตราเงินฝากด้านลบต่อสกุลเงินดอลลาร์และยูโร
จนถึงขณะนี้ มาตรการแซงก์ชั่นของชาติตะวันตกต่อรัสเซีย ด้วยการอายัดทุนสำรองแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และทองคำมีมูลค่าสูงกว่าครึ่งของจำนวนทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 640,000 ล้านดอลลาร์ หากนับตามอัตราก่อนรัสเซียบุกยูเครน วันที่ 24 ก.พ.
ธนาคารกลางรัสเซียระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เงินของธนาคารกลางชาติอื่นๆ อาจถูกอายัดได้เช่นกัน โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง ชาติเหล่านี้จึงเริ่มทบทวนยุทธศาสตร์เงินสำรองใหม่
“ใครๆ ต่างก็คาดได้ว่า ความต้องการทองคำจะเพิ่มขึ้น ส่วนเงินดอลลาร์และเงินยูโรจะลดลงในส่วนของการสำรองทรัพย์สิน” รายงานแบงก์ชาติรัสเซียระบุ
ทั้งนี้ เมื่อปลายปี 2021 (พ.ศ.2564) ธนาคารกลางรัสเซียมีทุนสำรองระหว่างประเทศ เป็นทองคำ 131,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลือเป็นเงินสำรองสกุลเงินต่างประเทศ 612,000 ล้านดอลลาร์ กระทั่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 จำนวนเงินสำรองเหลือ 583,400 ล้านดอลลาร์
คเซเนีย ยูดาเอวา รองประธานแบงก์ชาติรัสเซีย กล่าวว่า การหารือดังกล่าววิตกเฉพาะลูกค้ากลุ่มบริษัท หรือ corporate ที่มีเงินฝากกับธนาคาร ไม่ใช่ลูกค้าทั่วไป
รองประธานแบงชาติรัสเซียกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังเร็งเกินไปที่จะยกเลิกการจำกัดให้พลเมืองรัสเซียถอนเงินบัญชีเดินสะพัด ไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ แต่ไม่ปฏิเสธว่าจะทบทวนในเดือนกันยายนนี้
“เรารอให้ถึงเดือนกันยายนแล้วค่อยมาดูกันอีกที” ยูดาเอวา กล่าว
สำหรับกระแสเงินต่างชาติในทรัพย์สินครัวเรือน รวมถึงหุ้นและเงินฝาก มีสัดส่วนอยู่ราว 22%, ทางธนาคารกลางยังไม่คิดปรับสัดส่วนลง