รัสเซียส่งเครื่องบินรบถล่มกรุงเคียฟ ขณะผู้นำ G7 ประชุมที่เยอรมนี

REUTERS/Anna Voitenko

นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟระบุว่า ขีปนาวุธหลายลูกถล่มอาคารที่พักอาศัยอย่างน้อย 2 แห่ง รวมถึงโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย และบาดเจ็บอีกหลายคน

วันที่ 27 มิถุนายน 2565 อัลจาซีราห์รายงานว่า รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่กรุงเคียฟของยูเครนเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ โดยพุ่งเป้าถล่มอาคารที่พักอาศัยและโรงเรียนอนุบาล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย ขณะที่อีกหลายคนติดอยู่ตามซากอาคารที่พังเสียหาย

มีรายงานเหตุระเบิด 4 ครั้งเขย่าใจกลางกรุงเคียฟ ในช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น

“อันเดรย์ เยอร์มัค” หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครน เผยว่า รัสเซียโจมตีกรุงเคียฟอีกครั้ง ขีปนาวุธได้สร้างความเสียหายต่ออาคารที่พักอาศัย รวมถึงที่โรงเรียนอนุบาล

“มีโกลา โปโวโรซนีก” รองนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 6 ราย ต่อมามีเสียงระเบิดอีกหลายครั้งในพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นการป้องกันทางอากาศเพื่อทำลายขีปนาวุธลูกอื่น ๆ ที่ตามมา

กรุงเคียฟไม่ถูกโจมตีครั้งใหญ่มาตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน

“วิตาลี คลิทช์โก” นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวในแอปเทเลแกรมว่า มีบางคนติดอยู่ในซากปรักหักพังของอาคารที่พักอาศัยความสูง 9 ชั้น

เขากล่าวอีกว่า พวกเขาช่วยดึงเด็กหญิงอายุ 7 ขวบออกมา ตอนนี้เธอรอดชีวิตแล้ว พวกเขากำลังพยายามช่วยชีวิตแม่ของเธอ

โฆษกกองทัพอากาศยูเครนเผยว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้เกิดขึ้นจากขีปนาวุธพิสัยไกลที่ยิงจากเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 1,000 กิโลเมตร ในเมืองแอสตราคัน ทางตอนใต้ของรัสเซีย

การโจมตีเชิงสัญลักษณ์

คลิทช์โกให้สัมภาษณ์อัลจาซีราห์ว่า ขีปนาวุธที่ยิงถล่มกรุงเคียฟเป็นการโจมตีเชิงสัญลักษณ์ ก่อนการประชุมสุดยอดของนาโต้ ที่จะมีขึ้นในวันอังคารนี้

เขาเสริมด้วยว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเยือนของเลขาธิการสหประชาชาติ “อันโตนิโอ กูเตอร์เรส” เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยกูเตอร์เรสได้กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนว่าเป็น “สงครามที่ไร้สติ”

ขีปนาวุธของรัสเซียยังโจมตีที่เมืองเชอร์กาซี ซึ่งจนถึงตอนนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิด ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ซึ่งระบุด้วยว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 5 คน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ได้ใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูงเพื่อโจมตีศูนย์ฝึกทหารยูเครนในเชอร์นิฮิฟ, ซิโตเมียร์ และลวิฟ ซึ่งสอดคล้องกับจุดที่ยูเครนรายงานว่าถูกโจมตีเมื่อวันเสาร์

รัสเซียปฏิเสธว่าพุ่งเป้าหมายไปที่พลเรือน แต่ยูเครนและชาติตะวันตกกล่าวหาว่ากองกำลังรัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามในความขัดแย้งที่คร่าชีวิตผู้คนหลายพันคน และทำให้ผู้คนหลายล้านคนต้องหลบหนีออกจากยูเครน ขณะที่หลายเมืองเสียหาย

“โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกการโจมตีจากรัสเซียว่าเป็น “ความป่าเถื่อน” หลังจากเขาเดินทางถึงเยอรนีเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม G7

“ดมิโทร คูเลบา” รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า ประเทศ G7 ควรตอบสนองต่อการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งล่าสุดด้วยการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย และจัดหาอาวุธหนักให้ยูเครนมากขึ้น

การล่มสลายของเซเวอร์โรโดเนสตก์

ในสมรภูมิทางตะวันออกของเมืองเซเวอร์โรโดเนสตก์ ยูเครนได้พ่ายให้กับกองกำลังที่สนับสนุนรัสเซียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากกองทหารยูเครนถอยทัพ โดยให้เหตุผลว่าไม่มีสิ่งใดให้ปกป้องอีกต่อไปในเมืองที่ถูกทำลายแห่งนี้ หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดเป็นเวลาหลายเดือน

นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำหรับสำหรับยูเครน ที่พยายามควบคุมสองแคว้นทางตะวันออก ได้แก่ ลูฮันสก์ และโดเนตสก์ ซึ่งรวมกันเป็นภูมิภาคดอนบัส ที่รัสเซียเรียกร้องให้ยูเครนยอมยกให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดน

สำนักข่าวอาร์ไอเอรายงานโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียว่า กองกำลังแบ่งแยกดินแดนได้อพยพผู้คนมากกว่า 250 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก ออกจากโรงงานเคมีในเมืองเซเวอร์โรโดเนตสก์เมื่อวันอาทิตย์

พื้นที่อุตสาหกรรมโดยรอบโรงงานแห่งนี้เป็นส่วนสุดท้ายของเมืองที่กองกำลังยูเครนยึดครอง

สำนักข่าวทาสของรัสเซียรายงานโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่คนเดียวกันที่ระบุว่า กองกำลังรัสเซียได้เคลื่อนพลไปยังเมืองลีซีชานสก์ ซึ่งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำกับเมืองเซเวอร์โรโดเนตสก์ ขณะนี้เมืองลีชีชานสก์เป็นเมืองสุดท้ายที่ยูเครนยึดครองในแคว้นลูฮันสก์

ต้องอยู่ด้วยกัน

ไบเดนประณามการกระทำของรัสเซียพร้อมเน้นย้ำว่าพันธมิตรจำเป็นต้องรักษาความเข้มแข็ง แม้ว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามจะส่งผลต่อทั่วโลก ซ้ำเติมด้วยอัตราเงินเฟ้อ การขาดแคลนอาหาร และอื่น ๆ

“เราต้องอยู่ด้วยกัน เนื่องจากปูตินเชื่อมาแต่แรกว่า ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งนาโตกับ G7 จะต้องแตกคอกัน แต่เราจะไม่เป็นเช่นนั้น” ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวระหว่างการประชุมกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี “โอลาฟ ชอลซ์” ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

บรรดาผู้นำเริ่มปฏิบัติตามประกาศที่สั่งห้ามนำเข้าทองคำจากรัสเซีย ซึ่งเป็นมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ที่ชาติประชาธิปไตยหวังว่าจะโดดเดี่ยวรัสเซียในเชิงเศรษฐกิจได้มากขึ้นอีก

“เกลนน์ ดีเซน” ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเซาท์ อีสเทิร์น นอร์เวย์ ให้สัมภาษณ์อัลจาซีราห์ว่า การคว่ำบาตรทองคำอาจนำมาสู่ปัญหามากขึ้นสำหรับรัสเซีย นอกจากนี้ยังอาจส่งผลกระทบอย่างเดียวกันต่อเศรษฐกิจโลกเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับกรณีของแหล่งพลังงานจากรัสเซีย

“เมื่อประเทศนาโต้เริ่มใช้การคว่ำบาตร น้ำมันและก๊าซก็ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ถึงจุดที่รัสเซียสามารถส่งออกได้น้อยลง แต่ยังทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำในอดีต”

“สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นกับทองคำเช่นกัน”