จีน-รัสเซีย ใช่ไหม ทำให้ไบเดนคืนคำ ลุยพบ-ชนกำปั้น มกุฎราชกุมารซาอุฯ

มกุฎราชกุมารซาอุฯ
(Bandar Aljaloud/Saudi Royal Palace via AP)

ทริปสำคัญของโจ ไบเดน ที่ถูกจับตาที่สุดในการเยือนตะวันออกกลางครั้งนี้ คือการพบหน้าเจรจากับ มกุฎราชกุมารซาอุฯ บุคคลที่นายไบเดนเคยแอนตี้ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเพราะ จีน-รัสเซีย

วันที่ 16 กรกฎาคม 2565 เดอะ การ์เดียน รายงานวิเคราะห์การเดินทางเยือน ซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นทางการของนาย โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ที่ถูกมองว่าเป็นการเริ่มปรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ หรือ รีเซ็ต และเป็นการเปลี่ยนท่าทีของนายไบเดน ต่อมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล ซาอูด หรือ MBS

มกุฎราชกุมารซาอุฯ
มกุฎราชกุมารศาอุฯ ต้อนรับนายไบเดน ที่เจดดาห์ วันที่ 15 ก.ค. 2022 (Bandar Aljaloud/Saudi Royal Palace via AP)

นายไบเดนกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่โดยสารเครื่องบิน บินตรงจากอิสราเอลมายังราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เมื่อซาอุฯ เปิดน่านฟ้าให้

ประธานาธิบดีไบเดนพบปะและชนกำปั้นกับ MBS ที่เมืองเจดดาห์ พร้อมใช้เวลาหารือนาน 3 ชั่วโมง ภาพที่เผยแพร่ออกสื่อเป็นบรรยากาศที่ชื่นมื่น และดูเหมือนทำให้ MBS ทรงกลับมามีที่ยืนบนเวทีต่างประเทศอย่างสมพระเกียรติอีกครั้ง

มกุฎราชกุมารซาอุฯ
President Joe Biden participates in a working session with Saudi Crown Prince Mohammed bin Salman at the Al Salman Royal Palace, Friday, July 15, 2022, in Jeddah. (AP Photo/Evan Vucci)

ก่อนหน้านี้ นายไบเดนเคยปฏิเสธมาโดยตลอดที่จะพูดคุยกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด ผู้ที่จะสืบทอดราชบัลลังก์จากสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน

อีกทั้งยังวิจารณ์ซาอุดีอาระเบียในมุมที่มีปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะคดีฆาตกรรม จามาล คาช็อกกี คอลัมนิสต์ชาวซาอุฯ ที่เขียนบทความให้ วอชิงตันโพสต์ สื่อทรงอิทธิพลของสหรัฐ

แต่ความขุ่นข้องดังกล่าวถูกบดบังด้วยประเด็นท้าทายอีกมาก รวมถึงการขยายอิทธิพลของอิหร่านในตะวันออกกลาง ซึ่งต้องอาศัยความสัมพันธ์ทางการทูตรับมือ ป้องกันอิหร่านจากการสร้างอาวุธนิวเคลียร์

นอกจากนี้ ระหว่างการเดินทางจากอิสราเอลมายังเจดดาห์ นายเจก ซุลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐ กล่าวกับนักข่าวบนเครื่อง ว่าอย่าได้คาดหวังเรื่องคำแถลงร่วมกันระหว่างสหรัฐ-ซาอุฯ ซึ่งจะขานรับความต้องการของสหรัฐที่หวังให้ซาอุฯ เพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อคลายความวิตกในตลาดพลังงานโลก ที่ปั่นป่วนนับตั้งแต่เกิดศึกรัสเซียบุกยูเครน

Saudi Crown Prince Mohammed bin Salman smiles as he meets with President Joe Biden at the Al Salman Royal Palace, Friday, July 15, 2022, in Jeddah. (AP Photo/Evan Vucci)

ทิ้งคดีฆาตกรรมคาช็อกกีไว้ก่อน

ขณะที่ซาอุดีอาระเบียวางตัวให้เห็นชัดว่าเป็นอิสระจากผลประโยชน์ของสหรัฐ และออกจะเอนเอียงไปหาจีนและรัสเซียเพิ่มขึ้น

ไบเดนเขียนบทความลงวอชิงตันโพสต์ ก่อนการเยือนซาอุฯ ครั้งนี้ว่า “จากจุดเริ่มต้น เป้าหมายของผมคือการฟื้นคืน ไม่ใช่แบ่งแยกความสัมพันธ์กับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์มานาน 80 ปี”

สารที่สื่อออกมาดังกล่าว ชัดเจนว่าไบเดนถอนคำสัญญาที่จะทำให้ซาอุดีอาระเบียเป็นที่ไม่พึงปรารถนาทางสังคม ก่อนให้เผยแพร่รายงานข่าวกรองที่ชี้ชัดว่า มกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด ทรงอนุมัติปฏิบัติการจับตัวและสังหารนายคาช็อกกี เมื่อปี 2018 (พ.ศ.2561)

ไบเดนแถลงหลังพบปะเจรจากับ  MBS แล้ว เมื่อ15 ก.ค. 2022 ที่เมืองเจดดาห์ (AP Photo/Evan Vucci)

สหรัฐไม่มีทางเลือกมากนัก

ไดนา เอสฟานไดอารี จากกลุ่ม NGO Crisis Group กล่าววิจารณ์ว่า “ซาอุดีอาระเบียเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ด้านหนึ่งคือ ปรับความทันสมัยในหลายด้านและเปิดกว้างขึ้นนิดหน่อย แต่อีกด้านคือการปราบปรามมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลนายไบเดนก็รู้ทั้งรู้ เรื่องทั้งหมดนี้อย่างโหดร้าย”

การที่ซาอุดีอาระเบียเริ่มหันไปหารัสเซียและจีน เพื่อรองรับผลประโยชน์ที่หลากหลายขึ้น มีส่วนสำคัญทำให้สหรัฐต้องปรับท่าทีเช่นกัน

“สารที่ซาอุฯ สื่อออกมาก็คือ คุณไม่มีสิทธิมาบอกว่าเราต้องทำอะไร เราจะช่วยคุณก็ได้ถ้ามันเหมาะกับเรา แต่เราจะไม่ทำอะไรที่ขัดผลประโยชน์ของเราเอง” เอสฟานไดอารี กล่าว

มกุฎราชกุมารซาอุฯ
ชนกำปั้นแทนการจับมือในช่วงโควิดยังระบาด (Bandar Aljaloud/Saudi Royal Palace via AP)

ด้าน ซินเซีย เบียงโก จากสภาที่ปรึกษายุโรป ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เห็นตรงกันในประเด็นนี้

“ผู้นำซาอุดีฯเรียนรู้ที่ทำอะไรโดยไม่ต้องขอการรับรองจากสหรัฐ โดยเฉพาะองค์บินซัลมาน ทรงเรียนรู้ที่จะอยู่รอด และอาจจะรุ่งเรืองด้วยดีในภูมิภาค และบางครั้งถึงระดับระหว่างประเทศ โดยไม่ต้องขอการรับรองจากรัฐบาลสหรัฐ” เบียงโกกล่าว

สหรัฐถอยหลังครั้งใหญ่?

ขณะที่ฮาติช เซนกิซ คู่หมั้นของนายคาช็อกกี กล่าวว่า นายไบเดนผิดสัญญาที่เคยบอกว่าจะให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน ต้องมาก่อน

จามาล คาช็อกกี ผู้ถูกสังหาร REUTERS/Beawiharta

“นี่เป็นการถอยหลังครั้งใหญ่มากจริงๆ ทำร้ายจิตใจและน่าผิดหวัง นายไบเดนสูญเสียอำนาจทางคุณธรรม เอาน้ำมันและความสะดวกสบายอยู่เหนือหลักการและอุดมการณ์” หญิงที่สูญเสียคนรักในเหตุฆาตกรรมกล่าว

ไม่นานมานี้ ซาอุดีอาระเบียมีความร่วมมือกับรัสเซีย รวมถึงมีข้อตกลงกับบริษัทรัฐวิสาหกิจของรัสเซีย ชื่อ โรซาตอม (Rosatom) เพื่อสร้างโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ในราชอาณาจักร อีกทั้งปีก่อน ผู้แทนสองประเทศเพิ่งลงนามข้อตกลงยกระดับความแข็งแกร่งของกองทัพและความร่วมมือทางการทหาร

สำหรับจีน เป็นผู้นำเข้าน้ำมันเจ้าใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย ส่วนซาอุฯ ซื้ออาวุธจากจีน ทั้งโดรนและเครื่องบินรบ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน หน่วยข่าวกรองสหรัฐได้ข้อมูลมาว่า ซาอุฯ เริ่มการผลิตขีปนาวุธนำวิถีเอง โดยได้ความช่วยเหลือจากจีน

มกุฎราชกุมารซาอุฯ ทรงทักทายปูติน ในการประชุม จี20

เบียงโกมองว่า รัฐบาลสหรัฐมองการเดินทางเยือนซาอุฯของไบเดนว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าแทรก และสร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นกับซาอุฯ ก่อนที่ซาอุฯ จะมุ่งสร้างข้อตกลงต่างๆ กับจีนและรัสเซีย

“รัฐบาลสหรัฐมองเห็นโอกาสที่จะปลดเปลื้องเรื่องเหล่านี้ และถอยกลับไปยังจุดที่สร้างช่องว่างให้ซาอุฯ ทิ้งระยะห่างจากรัสเซียและจีนไว้ได้บ้าง” สมาชิกสภาที่ปรึกษายุโรปกล่าว

ขณะที่เอสฟานไดอารี สมาชิกไครซิส กรุ๊ป กล่าวว่า “รัฐบาลสหรัฐอาจมีความตั้งใจดีในการจัดทริปนี้ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับดูแย่ เพราะพวกเขาพ่ายในสงครามประชาสัมพันธ์ ตอนนี้ยังไม่ชัดว่า ทริปนี้จะทำให้ได้ประโยชน์อย่างไร ตามความรู้สึกแล้ว ทุกคนน่าจะเดินหนีไปอย่างผิดหวัง”

….