นายสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนัง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานกรรมการ บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณีการระบาดของโรค ASF ตอนนี้ไม่มีผลกระทบในส่วนของสินค้าหนังและเครื่องหนังที่มีการนำเข้ามาแปรรูปแล้วส่งกลับออกไป ซึ่งสินค้าต้นทางหลักใหญ่ ๆ จะเป็นสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นและแคนาดา ขณะที่หนังสุกรที่นำเข้ามาผลิตจะเป็นการนำเข้าจากกลุ่มในประเทศเอเชีย เนื่องจากไม่มีปัญหาในเรื่องข้อกำหนดในการนำเข้า ส่วนหนังและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้จากสหรัฐอเมริกาจะมีข้อกำหนดในการนำเข้าดังที่ได้ทราบข่าวกันอยู่แล้ว เช่น สารเร่งเนื้อแดง ทำให้ไม่สามารถนำเข้าในประเทศได้ จึงทำให้ลดความวิตกกังวลในส่วนของโรคระบาดในประเทศแอฟริกาและสหรัฐอเมริกา ว่าจะยังไม่มีผลกระทบกับไทย
สำหรับช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคมถึงกรกฎาคม 2561) ประเทศไทยมีการนำเข้าสินค้าจากสุกรเป็นจำนวน 30 ล้านตัน หรือในราว 4.5 ล้านตัว คิดเป็นมูลค่าการตลาดไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท และมีการส่งออกสินค้าทั้งหนังดิบและผลิตภัณฑ์สุกร รวมคิดเป็น 261.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.72 จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ส่วนหนังสุกรดิบ มีการนำเข้าในปีนี้คิดเป็น 22,500 ตัน เป็นมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท โดยหลักแล้วจะนำเข้ามาจากกลุ่มประเทศในแถบเอเชีย เช่น ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศหลัก และจีนมีสัดส่วนน้อยมาก ส่วนการส่งออกจะส่งออกกลับไปในประเทศเอเชียเช่นกัน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
“หนังสุกร ปัจจุบันมีความต้องการที่สูงขึ้น สามารถทำรายได้มากขึ้น เปรียบเทียบกับสัดส่วนของหนังวัวที่ทางประเทศไทยผลิตได้อยู่แล้ว หนังสุกรจะใช้มากในงานรองเท้า เช่น รองเท้าลำลอง รองเท้าแตะในประเทศและในประเทศตะวันออกเฉียงใต้ ซับในเสื้อผ้า กระเป๋า และของใช้ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้า ส่วนไขมันที่ได้จากการแปรรูปสุกร สามารถนำมาผลิตเป็นน้ำมันปรุงอาหาร ซึ่งส่วนนี้ทางภาครัฐได้มีการกำหนดทิศทางการใช้ที่เพิ่มมากขึ้น และมีการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาบริโภคน้ำมันจากสุกรมากขึ้น เพื่อใช้ทดแทนน้ำมันจากพืช ดังนั้นโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้นกับทางแอฟริกาอยู่ในขณะนี้นั้น ทางผู้ประกอบการและผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า จะยังไม่มีปัญหาหรือวิตกว่าทางประเทศไทยจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
นายสุวัชชัยกล่าวต่อไปว่า ส่วนของ CPL ได้มีการเฝ้าระวังเรื่องลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยังเบาใจได้ว่า หนังหมูที่นำเข้ามาผลิต เป็นหนังจากทางประเทศญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท
