“ซีไอเอ็มบี ไทย” กำไร 9 เดือนโต 35.5% ที่ 728.1 ล้านบาท

“ซีไอเอ็มบี ไทย” สรุปผลประกอบการงวด 9 เดือน 2562 รายได้จากการดำเนินงานจำนวน 10,386.8 ล้านบาท กำไรสุทธิจำนวน 728.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 190.7 ล้านบาท หรือ 35.5% YoY ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองหนี้เพิ่ม 32.7% YoY

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 มีกำไรสุทธิจำนวน 728.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 190.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.5 เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันปี 2561 สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานร้อยละ 2.3 และการลดลงของสำรองหนี้สงสัยจะสูญร้อยละ 32.7 สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานร้อยละ 17.4

รายได้จากการดำเนินงาน สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2562 มีจำนวน 10,386.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 236.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.3 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2561 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิร้อยละ 3.1 เป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อและการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินลงทุนและการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจำนวน 97.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.8 มาจากการเพิ่มขึ้นของ ค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยและค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ รายได้อื่นลดลงจำนวน 103.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.4 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของขาดทุนสุทธิจากหนี้สินทางการเงินที่กำหนดให้แสดงด้วยมูลค่ายุติธรรมสุทธิกับกำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2562 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2561 เพิ่มขึ้นจำนวน 1,060.8 ล้านบาทหรือร้อยละ 17.4 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น เนื่องจากการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ซึ่งกำหนดให้จ่ายค่าชดเชยเพิ่มขึ้นสำหรับพนักงานที่เกษียณอายุและมีอายุงานมากกว่าหรือเท่ากับ 20 ปีและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากกลยุทธ์การขยายงานของธนาคารภายใต้โครงการ Fast Forward เป็นผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 68.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2561 อยู่ที่ ร้อยละ 59.9

อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 3.32 ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 3.77 เป็นผลจากต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น

วันที่ 30 กันยายน 2562 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 240.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 238.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 จากสิ้นปี 2561 ซึ่งมีจำนวน 234.3 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 100.9 จากร้อยละ 97.2 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561

สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 11.1 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ร้อยละ 4.6 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 4.3 เป็นผลจากลูกหนี้ภาคธุรกิจบางรายและรายย่อย อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแลและการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 อยู่ที่ร้อยละ 98.0 ลดลงจากสิ้นปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 107.0 ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 เงินสำรองของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 10.9 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินจากเงินสำรองขั้นต่ำตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 5.1 พันล้านบาท

เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 กันยายน 2562 มีจำนวน 48.3 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 18.6โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 13.6