‘เส้นทางเศรษฐีออนไลน์’ จัดใหญ่ ‘พลิกเกมไว โอกาสใหม่ SMEs’ เผยกลยุทธ์ปั้นความสำเร็จเอสเอ็มอีไทย

‘เส้นทางเศรษฐีออนไลน์’ จัดสัมมนาใหญ่แห่งปี ‘พลิกเกมไว โอกาสใหม่ SMEs’ ที่สามย่านมิตรทาวน์ ‘รมช.สาธิต’ เปิดงาน ชื่นชมเอสเอ็มอีคือพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ย้ำ อย. ต้องสนับสนุนผู้ประกอบการ ไม่ใช่เป็นกำแพง ในงานระดมกูรูและเอสเอ็มอีชั้นนำ ‘น้ำพริกป้าแว่น-โกโก้ร้านไอ้ต้น-Otteri-เต่าบิน’ ถ่ายทอดกลยุทธ์ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ พร้อมจัดเต็มเอสเอ็มอีร่วมออกร้านกว่า 30 ราย หนุนภาคเอสเอ็มอีไทยคึกคัก หลังโควิดคลี่คลาย

เวลา 10.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม ‘เส้นทางเศรษฐีออนไลน์’ สื่อที่นำเสนอเรื่องราวกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ภายใต้ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) หรือ เครือมติชน เดินหน้าพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อย จัดงานสัมมนา ‘พลิกเกมไว โอกาสใหม่ SMEs’ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ มีประชาชนและนักศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ทั้งฟังเวทีเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญด้านเอสเอ็มอีภาครัฐและเอกชน ที่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเผยเคล็ดลับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ พร้อมเลือกซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่นำสินค้ามาแสดงและจัดจำหน่ายกว่า 30 ราย

นายสาธิต ปิตุเตชะ

เวลา 13.00 น. นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน ‘พลิกเกมไว โอกาสใหม่ SMEs’ โดยมีผู้บริหารเครือมติชน อาทิ นายสุรพล พิทยาสกุล ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ น.ส.กรชุลี เสนะเวส บรรณาธิการ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ นายนฤตย์ เสกธีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท งานดี จำกัด ในเครือมติชน เป็นต้น ให้การต้อนรับ รมช.สาธารณสุขและผู้ร่วมงาน 

จากนั้นนายสาธิตขึ้นกล่าวในช่วง ‘Special Talk พลิกโอกาส SMEs ไทย รู้แหล่งทุน รู้วิธีการ รู้ช่องทางจำหน่าย’ ว่าเอสเอ็มอีเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญ มั่นใจว่าหลังโควิดที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามา จะเป็นโอกาสของเอสเอ็มอีไทยในทุกมิติ เช่น มิติของเวลล์เนส เซ็นเตอร์, เมดิคัล ฮับ เป็นต้น และเป็นโอกาสทำให้สินค้าได้รับความนิยม

รมช.สาธารณสุข รับมอบหนังสือที่ระลึกจากบรรณาธิการ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์

นายสาธิตกล่าวถึงเรื่องการกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ผู้ประกอบการต้องขออนุมัติและอนุญาตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ ฯลฯ ว่า มีเสียงบ่นว่า อย. ใช้เวลาอนุญาตหรือมีกระบวนการขั้นตอนที่ช้า แต่ขอเรียนว่า ภายใต้การกำกับดูแลของตน ที่ได้รับมอบจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พยายามขับเคลื่อนว่า ต่อไปนี้ อย. ต้องเป็นผู้สนับสนุน ไม่ใช่เป็นกำแพงอีกต่อไป เพราะหากดูผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ขายในช่องทางต่างๆ มีตัวเลขการตลาดนับแสนล้านบาท 

“นอกจากนี้ เรากำลังเร่งเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หรือตำรับยา ที่เดินหน้าไปแล้วคือโปรดักต์ แชมเปี้ยน อย่างฟ้าทะลายโจร เราจำเป็นต้องเอาตัวนี้ไปขับเคลื่อนตัวอื่น ซึ่งรัฐต้องสนับสนุนเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยและเอสเอ็มอี” นายสาธิต กล่าว

รมช.สาธารณสุข ย้ำด้วยว่า ต่อไปนี้ อย. ต้องให้การสนับสนุนและให้คำแนะนำเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่ ควบคู่กับความปลอดภัยและคุณภาพ รวมทั้งร่วมมือกับกระทรวงและหน่วยงานอื่น เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อสอดส่องดูแลให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีความปลอดภัยและมีคุณภาพ นอกจากนี้ ยังกระจายอำนาจไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ให้ประชาชนสามารถขออนุมัติอนุญาตได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพมหานครแห่งเดียวอีกต่อไป

“อย. ต้องสนับสนุนให้ความรู้ ติดขัดตรงไหนสามารถปรึกษาได้ ด้านผู้ประกอบการก็ต้องทราบข้อมูลการอนุมัติอนุญาตของตัวเอง และต้องมีความรู้เพียงพอในสินค้าและเอกสารว่าต้องมีอะไรบ้าง เพื่อตัดวงจรคนนอกที่มาแสวงหาผลประโยชน์ เป้าหมายเพื่อให้เอสเอ็มอีมีโอกาสพลิกเกมไวและสร้างอนาคตในธุรกิจ โอกาสต้องมาถึงเอสเอ็มอีให้มากที่สุด เช่น การเข้าถึงแหล่งทุน ซึ่งรัฐบาลได้พยายามให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนมากที่สุด” รมช.สาธารณสุข เผย

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร

ต่อด้วยช่วง ‘Guru Talk: ชี้ช่องเติมทุน ติดปีก SMEs’ ซึ่ง นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า เอสเอ็มอีเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในระบบเศรษฐกิจ และมีส่วนช่วยสำคัญในการจ้างงานเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 บางธุรกิจอาจปิดตัวลงไป จึงอาจส่งผลทำให้การจ้างงานลดลง จึงอยากแนะนำให้ปรับตัวด้วยการยึดหลัก S-M-A-R-T

“หลักดังกล่าวคือการนำ S-Social Media เข้ามาช่วยในธุรกิจ M-Mindset ต้องปรับให้เป็นพลังบวกสร้างกำลังใจให้ตัวเอง A-Automation โดยการปรับเปลี่ยนการทำงาน อาจนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย เพื่อลดความผิดพลาด R-Responsibility เป็นการรับมือกับการขยายขอบเขตความรับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ และนำดาต้าเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ ทำให้รู้ทิศทางในการปรับตัวได้ง่ายขึ้น และ T-Transformation คือการปรับโมเดลธุรกิจ ตามเทรนด์การเปลี่ยนแปลงทางการตลาด ฝ่าวิกฤตให้ไวกว่าคนอื่นๆ รวมถึงเรื่องแหล่งเงินทุนที่สามารถเข้ามาปรึกษา บสย. ได้ และเราจะช่วยจับคู่กับแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมกับท่านได้” นายสิทธิกร แนะ

งานสัมมนา ‘พลิกเกมไว โอกาสใหม่ SMEs’ ยังมี นายธีรศานต์ สหัสสพาศน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจ การตลาดดิจิทัล ที่มาเผยถึงวิธีการอยู่รอดในตลาดที่มีการแข่งขันสูงว่า ใจความสำคัญของเอสเอ็มอียุคนี้ ต้องรู้ว่าลูกค้าเราคือใคร อยู่ที่ไหน มองต้นทุนให้ออก หาช่องทางที่เหมาะสมให้เจอ ตอบแชทให้ไวและดี ปรับตัวให่ไว และพัฒนาให้ทัน

นางบังอร วันน้อย

รวมถึงมีช่วง ‘SMEs Showcase Talk: ผู้ประกอบการ การบริหารธุรกิจในสถานการณ์วิกฤต’ โดย นางบังอร วันน้อย เจ้าของแบรนด์ ‘น้ำพริกป้าแว่น’ ดำเนินรายการโดย นายสรกล อดุลยานนท์ เจ้าของเพจ ‘หนุ่มเมืองจันท์’ ซึ่งนางบังอร เผยว่า ไอเดียการทำน้ำพริก ไม่มีอะไรเลย แค่รู้จักวัตถุดิบอย่างดี ทั้งรสชาติทั้งน้ำหนัก เวลาหยิบมาทำ แทบจะไม่ต้องกะเลย เพราะทำจนชินมือ หยิบมาผสม จินตนาการจนเป็นเมนูต่างๆ

ขณะที่ นายสินชัย อัศวไกรกิจ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการขาย น้ำพริกป้าแว่น เสริมว่า เราไม่ได้ไปนั่งทำสินค้าแข่งกับคนอื่นๆ แต่เข้าไปเปิดตลาด โดยการทำน้ำพริกแช่เย็นเป็นเจ้าแรก ซึ่งเป็นบลู โอเชียน ในตอนนั้น เลยเป็นหนึ่งในเหตุที่ทำให้สินค้าน้ำพริกป้าแว่นได้รับความนิยม

ด้าน นายกวิน นิทัศนจารุกุล ผู้ปลุกปั้นธุรกิจร้านซักผ้าหยอดเหรียญ ‘Otteri wash and dry’ จนมีราว 750 สาขาทั่วประเทศ บอกว่า เคยมีความฝันอยากเป็นที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สักพักรู้สึกว่าจะเป็นที่ 1 ไปทำไม ตอนนี้เป้าหมายของ Otteri จึงเป็นการทำเพื่อคนอื่น และทำธุรกิจไปด้วยในเวลาเดียวกัน เลยเปิดบริษัทชูมณี เพื่อซักผ้าฟรีให้คนไร้บ้าน

น.ส.วทันยา อมตานนท์ ผู้ทำธุรกิจ ‘ตู้เต่าบิน’ ที่ติดตั้งไปแล้วกว่า 1,000 ตู้ทั่วประเทศ กล่าวว่า ถึงมีเงินก็ใช่ว่าจะทำได้ ‘เต่าบิน’ จึงไม่เกี่ยวกับนายทุนสักเท่าไหร่ เพราะถ้าไม่ถนัดทางเทคโนโลยี ก็ไม่มีทางมาถึงวันนี้ได้

ส่วน นายประชานารถ โพธิสาราช อดีตนักดนตรี ที่ปรับตัวจากพิษเศรษฐกิจ มาเปิดร้านขายโกโก้ในชื่อ ‘โกโก้ร้านไอ้ต้น’ ขยายแฟรนไชส์ได้กว่า 100 สาขา เผยว่า ขนาดตนคาแร็กเตอร์นี้ จบ ม. 6 เป็นนักร้องอย่างเดียว ยังมาได้ขนาดนี้ อยากให้ทุกคนฟังเยอะๆ ทำเยอะๆ เชื่อว่าต้องถูกสักอัน

ภายในงานยังมีโซนบูธสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 30 ราย ที่เส้นทางเศรษฐีออนไลน์คัดเลือกจากทั่วประเทศ มาให้ผู้ร่วมงานได้เลือกซื้อสินค้าอย่างจุใจ อาทิ ร้านพี่เขียวข้าวเหนียวห่อ ข้าวเหนียวหมูที่โด่งดังใน TikTok, ร้านขนมคีโต น้องริสา มาสเตอร์เชฟจูเนียร์ไทยแลนด์, ร้าน แม่ หมูสะเต๊ะ, โกโก้ร้านไอ้ต้น, ร้านปูดอง ปองดู, ร้านข้าวหน้ามหาสมุทร, ชานมไข่มุก Dakasi, ร้าน M&G เครื่องเขียน ฯลฯ 

น.ส.สมิทธานันท์ ธนาภิวงศ์ 

น.ส.สมิทธานันท์ ธนาภิวงศ์ เจ้าของกิจการร้านแม่ หมูสะเต๊ะ ที่มาร่วมออกบูธในงานนี้ กล่าวว่า นอกจากนำหมูสะเต๊ะมาจำหน่ายแล้ว ยังได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด คือ ขนมเปี๊ยะ Low GI หรือขนมเปี๊ยะที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ มาเปิดตัวด้วย เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน ผู้สูงอายุ และผู้รักสุขภาพ 

“ขนมเปี๊ยะเป็นขนมที่รับประทานง่าย แต่ในท้องตลาดส่วนมากจะมีความหวาน เป็นข้อจำกัดของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ จึงได้ลองพัฒนาสูตรให้หวานน้อย และใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นทางเลือกของผู้ชอบรับประทานขนมเปี๊ยะ ดีใจมากๆ ที่ได้มาร่วมออกบูธในงานเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ เพราะมีผู้ร่วมงานเข้ามาสอบถามและซื้อกลับไปไม่ขาดสาย” เจ้าของกิจการร้านแม่ หมูสะเต๊ะ บอก  

ด้าน น.ส.อรวรรณ กิตติธนนิรันดร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและแฟรนไชส์ แบรนด์ชานมไข่มุก Dakasi กล่าวว่า จุดเด่นของแบรนด์ Dakasi คือ การชงชานมแบบสดใหม่แก้วต่อแก้ว จึงทำให้ลูกค้าสบายใจได้ว่าจะได้ดื่มชาที่เพิ่งชงออกมาใหม่ๆ ไม่ใช่น้ำชาที่ค้างทิ้งๆ ไว้ อีกทั้ง Dakasi ได้จับมือกับบางจากรีเทล รับสิทธิ์ขยายสาขาในสถานีบริการน้ำมันบางจาก และตั้งเป้าขยายสาขาทั่วประเทศให้ได้ทั้งหมด 150 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้

ขณะที่ประชาชนที่เข้าร่วมงาน ต่างบอกว่า ทราบข่าวว่ามีงานนี้จากสื่อในเครือมติชน ที่นำเสนอผ่านช่องทางออนไลน์ เห็นว่าน่าสนใจจึงมาดู เพราะเป็นงานที่รวบรวมเอสเอ็มอีชื่อดังมากมายมาไว้ด้วยกัน อีกทั้งต้องการทราบว่า เอสเอ็มอีปรับตัวอย่างไรในช่วงโควิด ฝ่าวิกฤต และสร้างกำลังใจอย่างไร ซึ่งแต่ละบูธได้ให้คำแนะนำและอธิบายสินค้าเป็นอย่างดี หากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์จัดงานอีกก็อยากมาร่วม