เปิดหมู่บ้านหรูและคอนโดมีเนียม 100 ล้านบาทของทุนจีนสีเทาในเครือข่าย “ตู้ห่าว”

ตำรวจกระจายกำลังตรวจที่พักอาศัยชั้นสูงที่เชื่อมโยงกับเครือข่าย “ตู้ห่าว” พบทุนจีนกว้านซื้อโครงการหมู่บ้านหรูบางแห่งเกือบยกหมู่บ้าน เพื่อนบ้านชาวไทยเผย พฤติกรรมรังควาน ซ่องสุมเล่นการพนันและปาร์ตี้กลางดึก จนเจ้าของบ้านคนไทยต้องขายบ้านหนี

วันที่ 29 พ.ย. พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ได้สนธิกำลังตำรวจ บช.สอท. รวมถึงตำรวจคอมมานโด ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านหรู ย่านซอยลาซาล หลังสืบพบว่า กลุ่มทุนจีนใช้หมู่บ้านดังกล่าวเป็นที่พักอาศัย

บ้านที่ตำรวจบุกตรวจค้นในหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล
บ้านที่ตำรวจบุกตรวจค้นในหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล / สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

หมู่บ้านที่กำลังตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจค้น คือ หมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล อ.เมือง สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโครงการบ้านหรู ราคาหลังละกว่า 50 ล้านบาท ทั้งหมู่บ้านมีบ้านทั้งหมด 66 หลัง เฉลี่ยราคาหลังละ 35-60 ล้านบาท

ตำรวจพบว่า คนจีนใช้เงินสดซื้อบ้านหรูถึง 50 หลัง ที่เหลือ 16 หลัง มีเจ้าของเป็นคนไทย แต่ก็ทยอยขายบ้านที่อยู่ติดกับชาวจีนเหล่านี้ เพราะทนพฤติกรรมของเจ้าของบ้านชาวจีนที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2563 ไม่ไหว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า เจ้าของบ้านชาวไทยอธิบายว่า กลุ่มคนจีนซึ่งพบว่ามีความเชื่อมโยงกับผับ “จินหลิง” ชอบเข้ามามั่วสุมเล่นไพ่ จัดงานเลี้ยงสังสรรค์เสียงดังในเวลากลางคืน

บ้านที่ตำรวจบุกตรวจค้นในหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล
หมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล / สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

หลังนายตู้ห่าว หรือ ชัยนัฐร์ กรณ์ชายานันท์ เข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อไม่นานมานี้ กลับพบว่า เจ้าของบ้านชาวจีนมีพฤติกรรมผิดปกติ อาทิ ขนย้ายทรัพย์สินภายในบ้านออกไป และนำรถหรูไปซุกซ่อน

ปฏิบัติการนี้เป็นการขยายผลจากยุทธการ “ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน” ที่ได้ตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยเป็นที่พักอาศัยและเป็นแหล่งมั่วสุมกระทำความผิดของกลุ่มทุนจีนเสีเทา และขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน กทม. 3 จุด เมื่อต้นเดือน พ.ย. โดยจากการตรวจสอบ ตำรวจพบว่า กลุ่มทุนจีนกว้านซื้อบ้านหรูในนามของบริษัท หรือผ่านนอมินี ซึ่งต่อจากนี้ จะตรวจสอบว่ามีการเปิดบริษัทถูกต้องหรือไม่

ซื้อสดหลังละ 30-60 ล้านบาท

เพจ “บางนา” ที่แชร์เรื่องราวข่าวสารในเขตบางนา ระบุในโพสต์ที่มีผู้แชร์มากเกือบ 10,000 ครั้งว่า “คนไทยต้องขายบ้านหนี เพราะรวมตัวปาร์ตี้เสียงดังยามค่ำคืน ขนพริตตี้สาวมาบริการถึงในหมู่บ้านขวักไขว่ และพบว่าในคนจีนแก๊งนี้ ซื้อเงินสดหลังละ 30-60 ล้านบาท”

ผู้ใช้สังคมออนไลน์ที่เคยเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้านแห่งนี้ แสดงความเห็นในโพสต์ของเพจ “บางนา” ว่า หมู่บ้านแห่งนี้แทบจะเป็นของคนจีนแล้ว อาทิ

“ย่านนั้นมีหมู่บ้านหรูแบบนี้ไม่กี่ที่… แล้วเคยเข้าไปรับส่งของ แทบจะจีนทั้งหมู่บ้านเลย”

“ในหมู่บ้านผม มี 10 กว่าหลัง ยังไม่เห็นโดนเลย”

“ซอยลาซาลตัดใหม่ คนรวยอยู่เยอะจริงครับ ยิ่งเส้นตรงหน้าโรงเรียนลาซาลตรงตลาดสดลาซาลด้วยมีแต่คนจีน”

ตัวอย่างบ้านในหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล
ตัวอย่างบ้านในหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล / SC Asset

พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ข้อมูลจากเว็บไซต์ เอสซี แอสเซ็ท ผู้พัฒนาโครงการ ระบุว่า โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท เป็น “อัครสถานหรู สไตล์ English Craftsman บรรจงสร้างอย่างปราณีต ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความเป็นส่วนตัว เอกสิทธิ์เพียง 65 ครอบครัว เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมฟังก์ชั่นอันสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด Grand Double Volume Dining Room ห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ หรูหราโอ่อ่าด้วยเพดานสูงโปร่ง พร้อมนวัตกรรมใหม่ Eldercare Solution by SC ASSET ที่ออกแบบรองรับการพักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ” โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 40-60 ล้านบาท

คอนโดหรู ทุนจีนซื้อสด 100 ล้านบาท

นอกเหนือจากหมู่บ้านหรูในย่านซอยลาซาล ตำรวจยังได้กระจายกำลังตรวจค้นที่พักอาศัยต้องสงสัยของทุนจีนในอีก 4 จุดใหญ่ ๆ โดยจุดหนึ่งนั้น คือ ห้องชุดหรูชั้น 69 ของคอนโดมีเนียม “แมกโนเลีย เรสซิเดนซ์” ย่านเจริญนคร ติดกับห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม ซึ่งตรวจสอบพบว่า มีราคากว่า 100 ล้านบาท

แมกโนเลีย วอเตอร์ฟรอนต์ เรสซิเดนซ์
แมกโนเลีย วอเตอร์ฟรอนต์ เรสซิเดนซ์ / 9ASSET

ทางการเปิดเผยว่า คอนโดหรูชั้น 69 แห่งนี้ ซื้อด้วยเงินสด โดยบริษัทนอมินี ที่มีชาวจีนเป็นหุ้นส่วน 49% และคนไทยอีก 2 คน ร่วมถือหุ้นรวมกันอีก 51% โดยบริษัทนี้ มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท หรือเท่ากับเงินที่ใช้ซื้อคอนโดหรูแห่งนี้

รายการ “เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” ได้เผยแพร่คลิปที่ตำรวจได้เข้าพูดคุยกับหนึ่งใน 2 ผู้ถือหุ้นคนไทย ซึ่งกลายเป็นว่า เป็นเพียงคนรับจ้างล้างสระน้ำ ที่มีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 10,000 บาทเท่านั้น

สรุปจุดตรวจค้นทั้งหมดของปฏิบัติการที่ขยายผลจากยุทธการ “ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน” มีดังนี้

  1. บ้านหรู 4 หลัง ในหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล
  2. บ้านหรู 2 หลัง ในหมู่บ้านทูแกรนด์ โมนาโก ซอยกาญจนาภิเษก 50 แขวงดอกไม้
  3. บ้านหรู 1 หลัง หมู่บ้านบุราสิริ วัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม
  4. บ้านหรู 3 หลัง ในหมู่บ้านลดาวัลย์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า
  5. ห้องชุดหรู ชั้น 69 ของคอนโดมีเนียมแมกโนเลีย เรสซิเดนซ์ ย่านเจริญนคร

รถหรูที่ตรวจยึดได้
รถหรูที่ตรวจยึดได้ / สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ยึดบ้านหรูราคากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งพบว่าเป็นของภรรยานายตู้ห่าว ในย่านพระราม 5 ไว้แล้ว

ขณะที่ ในงานสัมมนา “ผ่ากลยุทธ์ธุรกิจคอนโดมีเนียม ปี 2023” บางกอกบิซนิวส์รายงานว่า นางสุพินท์ มีชูชีพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2565 “ชาวจีนซื้อมากที่สุด ถึง 15,000 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณ 5 ล้านบาทต่อยูนิต”

“นักธุรกิจชาวจีนส่วนใหญ่ ชอบที่อยู่อาศัยรูปแบบเพนท์เฮาส์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา”

คืบหน้าแล้ว 90% ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท

วันที่ 1 ธ.ค. พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าว่าได้ตรวจยึดเครื่องบินของ นายตู้ห่าว ซึ่งอยู่ที่สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจสอบหาดีเอ็นเอ และสารเสพติด ทั้งนี้ได้ยื่นให้ ป.ป.ส. ทำการยึดอายัดทรัพย์ทั้งหมดไปแล้วมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาทนับตั้งแต่การตรวจค้นเป็นต้นมา

“วันนี้ในการสืบสวนมาถึง 90% แล้ว เฉพาะในกลุ่มคนจีน ซึ่งได้จับกุมหมดแล้ว ล่าสุดคือได้จับกุม นายโทนี่ ยิป เจ้าของสเปชพลัส ผับ จนถึงวันนี้จับผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว 102 คน สิ่งที่จะต้องขยายต่อไปคือเรื่องทรัพย์และเงินสด คนที่เก็บเงินสดไว้คือใคร” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าว

ตู้ห่าว คือ ใคร

นายตู้ห่าว คือ คนจีนที่โอนสัญชาติเป็นสัญชาติไทย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในฐานความผิดร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 อันเป็นการมีไว้เพื่อการค้า อันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน และสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ แถลงความคืบหน้าปฏิบัติการกวาดล้างธุรกิจสีเทาชาวจีนว่า นายตู้ห่าว มีความเชื่อมโยงกับผับจินหลิง โดยมีชื่อเป็นผู้เช่าผับ พบการเข้าออกผับจินหลิงเป็นประจำ รวมทั้งวันที่เปิดปฏิบัติการจับกุมเมื่อ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังแสดงความเชื่อมั่นในการเอาผิดคดียาเสพติดกับนายตู้ห่าวได้ เพราะคนในผับดังกล่าวรู้ว่านายตู้ห่าวเป็นผู้สั่งการ

Thai News Pix
นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว นักธุรกิจจีนที่โอนสัญชาติมาเป็นไทย ตามหมายจับคดีจำหน่ายยาเสพติดเชื่อมโยงผับลับชาวจีน “จินหลิง” / Thai News Pix

“การสืบสวนเรามีความเชื่อมโยงได้ว่า ตู้ห่าว อยู่ในสถานที่นั้นในวันเกิดเหตุ  และตู้ห่าวเป็นเจ้าของสถานที่นั้นโดยเป็นคนเช่า แล้วอยู่ในสถานที่นั้นเป็นประจำ อันนี้เป็นข้อมูลในการสืบสวนที่ทำให้เราเชื่อมโยงได้ว่า ทั้งยาเสพติด และคนที่อยู่ในสถานบริการนั้นรู้ว่าตู้ห่าวมีการเข้าออกอยู่ตลอด และมีการสั่งการอยู่ตลอด” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ แถลงด้วยว่า กลุ่มของนายตู้ห่าว เป็น 1 ใน  5 กลุ่มของนายทุนจีนที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงในไทยโดยแอบแฝงธุรกิจผิดกฎหมาย ในกรุงเทพฯ และชลบุรี ขณะนี้ได้จับกุมไปแล้ว 3 กลุ่ม โดยทั้ง 5 กลุ่ม มีความสัมพันธ์รู้จักกัน

“ในกรุงเทพฯ มีความเกี่ยวพันกันทั้งหมด… เป็นกลุ่มเดียวกัน ทั้งร่วมกันและแยกกันทำ”

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ แถลงด้วยว่า นายตู้ห่าว สื่อมวลชนทราบดีอยู่ว่าได้แต่งงานกับหลานสาว พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วงปี 2541-2543 และอดีตรองนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งหลายสื่อระบุว่า ภรรยาของนายตู้ห่าว มียศ เป็น พ.ต.อ. หญิง

………..

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว