9 พฤศจิกายน ครบรอบ 66 ปี ประดิษฐาน “ท้าวมหาพรหมเอราวัณ” บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ด้านหน้าโรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพมหานคร
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ศาสตราจารย์พิเศษ ไพจิตร โรจนวานิช ประธานในพิธี พร้อมด้วยบริษัทสหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว บริษัท โรงแรมเอราวัณ จํากัด (มหาชน) และมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ ร่วมกันทำพิธีสักการะท่านท้าวมหาพรหม ณ ศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ ในโอกาสครบรอบ 66 ปี ประดิษฐาน “ท้าวมหาพรหมเอราวัณ” โดยมีประชาชนผู้ศรัทธาร่วมงานอย่างคับคั่ง
เพจเฟซบุ๊ก We Love Ratchaprasong เผยแพร่ข้อมูลว่า วันที่ 9 พฤศจิกายน ถือเป็นวันเกิดพระพรหม เนื่องจากครบรอบ 66 ปี แห่งการอัญเชิญองค์ท้าวมหาพรหมเอราวัณมาประดิษฐาน ณ บริเวณด้านหน้าโรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
พร้อมระบุว่า วันที่ 9 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันสักการะประจำปีของพระพรหมเอราวัณ หรือที่เรียกกันว่า “วันเกิดพระพรหม” นับตั้งแต่วันที่ศาลพระพรหมถูกตั้งขึ้น ผู้คนทั้งจากในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างประเทศต่างก็พากันมาสักการบูชาด้วยความเชื่อที่ว่า ท่านจะช่วยปัดเป่าอุปสรรค และส่งเสริมโชคลาภ รวมไปถึงความสำเร็จในทุกด้านมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับประวัติของท้าวมหาพรหมเอราวัณ ออกแบบศาลโดย ระวี ชมเสรี และหม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล ส่วนองค์ท้าวมหาพรหมออกแบบโดย จิตร พิมพ์โกวิท มีลักษณะเป็นปูนปั้นปิดทอง
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อพลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้นต้องการให้สร้างโรงแรมขึ้นบริเวณสี่แยกราชประสงค์เพื่อรองรับแขกบ้านแขกเมือง แต่การก่อสร้างมีอุบัติเกิดขึ้นบ่อยครั้งและไม่ราบรื่นนัก
เชื่อกันว่าไม่ได้มีการทำพิธีบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณนั้น เมื่อเริ่มสร้างโรงแรม อีกทั้งฤกษ์ในการวางศิลาฤกษ์ของโรงแรมก็ไม่ถูกต้อง รวมถึงชื่อของโรงแรม คือเอราวัณ เป็นชื่อช้างทรงของพระอินทร์ ถือเป็นชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องทำพิธีบวงสรวงอย่างถูกต้องเหมาะสม
การแก้เรื่องร้ายต่าง ๆ จึงต้องทำด้วยการขอพรจากพระพรหม จนในที่สุด นำมาซึ่งการสร้างศาลพระพรหมขึ้นทันทีหลังจากการก่อสร้างโรงแรมแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2499 รวมถึงสร้างศาลพระภูมิขึ้นไว้ในโรงแรม วันที่ 9 พฤศจิกายน จึงถือเป็นวันเกิดของท้าวมหาพรหมเอราวัณนับแต่นั้นเป็นต้นมา