สงกรานต์ 2566 รถบรรทุกเลี่ยงขนส่ง-งดวิ่งรถเปล่า ขบ.ขอความร่วมมือ

ขอความร่วมมือรถบรรทุกเลี่ยงขนส่งสินค้าและงดวิ่งรถเปล่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 66
ขอความร่วมมือรถบรรทุกเลี่ยงขนส่งสินค้าและงดวิ่งรถเปล่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 66

กรมการขนส่งฯ ขอความร่วมมือรถบรรทุกเลี่ยงขนส่งสินค้าและงดวิ่งรถเปล่า ช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์ 66 เพราะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง

วันที่ 3 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับสหพันธ์การขนส่งฯ บขส. สปข. และภาคีเครือข่าย แถลงข่าวความร่วมมือในการหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2566 พร้อมซักซ้อมแนวทางปฏิบัติตามมาตรการเพื่อความปลอดภัยกับผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารทั่วประเทศ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า เนื่องด้วยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้คาดว่า จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ในกรุงเทพฯและระหว่างจังหวัดรวม 7.5 ล้านคนต่อเที่ยว

ดังนั้น ปริมาณยานพาหนะที่ใช้บนท้องถนนจึงมีความคับคั่งและมีโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้น ในวันนี้กรมการขนส่งทางบก จึงร่วมกับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและภาคีเครือข่าย ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนด้วยการหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าและงดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า)

รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้บนไหล่ทาง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2566 เพื่อลดโอกาสเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและลดปัญหาการจราจร ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้รถ ให้เดินรถได้เฉพาะช่องเดินรถซ้ายสุดเท่านั้น และปฏิบัติตามข้อแนะนำ ดังนี้

1.กำชับผู้ขับรถให้ขับด้วยความระมัดระวัง ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ให้ผู้ขับรถพักผ่อนอย่างเพียงพอ มีสภาพร่างกายพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย และไม่ขับรถเกินชั่วโมงทำงานตามที่กฎหมายกำหนด

2.ตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัยของรถบรรทุก/รถลากจูง/รถพ่วง ก่อนใช้งานทุกครั้ง

3.ผู้ขับรถบรรทุกต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจเป็นศูนย์

4.ผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ Global Positioning System (GPS) ในรถของตนเอง ให้ติดตามการใช้ความเร็วของรถบรรทุกอย่างต่อเนื่องผ่าน Application DLT-GPS และแจ้งเตือนผู้ขับรถเมื่อพบว่ามีการใช้ความเร็วเกินกำหนด เพื่อร่วมกันป้องกันอุบัติเหตุ

สั่งรถโดยสารให้ทำตามอย่างเคร่งครัด

สำหรับแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการขนส่งผู้โดยสาร ให้นำรถเข้าตรวจสภาพตามระยะเวลาที่กำหนด ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัยก่อนใช้งานทุกครั้ง โดยผู้ประกอบการต้องกำชับ ตรวจสอบ และดูแลความพร้อมของพนักงานขับรถ ให้พักผ่อนให้เพียงพอและมีสภาพร่างกายพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย ไม่ใช้สารเสพติด ปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ และไม่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ ผู้ขับรถต้องนำรถเข้าจุดตรวจ Checking Point และจุด Rest Area และห้ามรับ-ส่งผู้โดยสารในเส้นทางที่ไม่ได้กำหนดในใบอนุญาต รวมถึงต้องแจ้งผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัย เช่น คาดเข็ดขัดนิรภัยทุกครั้งก่อนออกเดินทาง

ขอความร่วมมือ 28 กลุ่มขนส่งสินค้า

อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวต่อไปว่า กรมการขนส่งทางบกได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการขนส่ง ด้วยรถบรรทุกไม่ประจำทาง รถบรรทุกส่วนบุคคล รวมถึงองค์กรด้านการขนส่งสินค้า 28 แห่ง ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนดังกล่าว ประกอบด้วย

สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย, สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย, สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย, สมาคมขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออก, สมาคมขนส่งภาคตะวันออก, สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง ชลบุรี, สมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก, สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน, สมาคมโลจิสติกส์และขนส่งภาคใต้, สมาคมผู้ประกอบการรถบรรทุกน้ำมัน

แห่งประเทศไทย, ชมรมรถบรรทุกจังหวัดลำปาง, สมาคมผู้ประกอบการขนส่งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม, สมาคมผู้ประกอบการรถเครน, สมาคมไทยโลจิสติกส์และการผลิต, สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ, สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจวัตถุอันตราย, สมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย, สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย

สมาคมโลจิสติกส์และขนส่งไทย, สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย, สมาคมการค้าโลจิสติกส์ไทยแห่งอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง, ชมรมขนส่งสินค้าท่าเรือ แหลมฉบัง, สหพันธ์การขนส่งทางรถบรรทุกแห่งอาเซียน, หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สมาคมตัวแทนออกของรับอนุญาตไทย และสมาคมขนส่งสินค้าจังหวัดตากและผู้ประกอบการขนส่ง

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกขอขอบคุณ หน่วยงาน สมาคม ชมรมต่าง ๆ ในความร่วมมือนี้โดยเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกและรถโดยสาร พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และส่งมอบถนนที่ปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์นี้