FLOCK OF ศิลปะสุดล้ำ เชื่อมจินตนาการกับความจริงด้วย AI ที่ทรูดิจิทัล พาร์ค

วันที่ 3 สิงหาคม 2566 - 14:41 น.

“FLOCK OF…Discover the supernatural nature of floating fish” นิทรรศการศิลปะสุดล้ำ สัมผัสฝูงปลาบนอากาศ เชื่อมจินตนาการกับความจริง ด้วย AI ชมฟรี 5 ส.ค.-15 ก.ย.นี้ ที่ทรูดิจิทัล พาร์ค

วันที่ 3 สิงหาคม 2566 “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” ร่วมมือกับ “bit.studio” บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีอินเตอร์แอ็กทีฟชั้นนำของเมืองไทย จัด “FLOCK OF… Discover the supernatural nature of floating fish” นิทรรศการล้ำสมัยในรูปแบบ Immersive Art ที่ผสมผสานศิลปะและ AI Technology เข้าด้วยกัน

FLOCK OF จะพาทุกคนดำดิ่งสู่โลกใต้ท้องทะเล ก่อนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ากว้าง ท่ามกลางฝูงปลาที่โบยบินในอากาศราวกับมีชีวิต ด้วยเทคโนโลยีควบคุมทิศทางการเคลื่อนไหวแบบเฉพาะ

นิทรรศการนี้เปรียบเสมือนดินแดนที่หลอมรวมกันระหว่างความเป็นจริงและจินตนาการ ท้องทะเลและท้องฟ้า ฝูงปลาและฝูงนก

เป็นการก้าวข้ามตัวตน สะท้อนความเชื่อมโยงระหว่างกันในธรรมชาติ ที่แม้แตกต่างแต่อยู่ร่วมกันได้ด้วยการปรับตัว สื่อถึงธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและการดำรงอยู่ของชีวิต

ADVERTISMENT

เทคโนโลยี ศิลปะ และจินตนาการ

ไฮไลต์ของนิทรรศการ FLOCK OF อยู่ที่เทคโนโลยีและเทคนิคพิเศษจำนวนมากที่ใช้จัดแสดง โดย bit.studio ได้ถ่ายทอดออกมาเป็น Immersive Art ทั้งซอฟต์แวร์ในการควบคุมอิเล็กทรอนิกส์และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อเข้ากับเซิร์ฟเวอร์ เพื่อใช้ควบคุมปลาให้เคลื่อนไหวไปตามจุดที่กำหนด

การนำเทคนิคการนำความรู้ด้านฟิสิกส์มาใช้ควบคู่กับเทคโนโลยีเพื่อทำให้ปลาสามารถแหวกว่ายบนอากาศได้

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีขั้นสูงที่ทำให้ปลาแต่ละตัวสามารถรับรู้ตำแหน่งของปลาตัวอื่น ๆ ได้ เป็นการเลียนแบบพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันในธรรมชาติและเทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์หลายชนิดเข้าด้วยกัน

FLOCK OF จัดแสดงผลงานภายในห้องโล่งกว้างขนาดใหญ่ พร้อมฉายภาพและแสงไปทั่วทุกมุมห้อง ทำให้ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์กับผลงานได้อย่างอิสระ เสมือนหลุดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโลกเหนือจินตนาการ ที่ทุกอย่างเป็นไปได้

“นายเกียรติยศ พานิชปรีชา” Ceo & Co-founder The Flock of by Bit.studio กล่าวว่า เราเป็นบริษัทที่นำเทคโนโลยีมาผลักดันเรื่องการออกแบบและงานศิลปะ ซึ่งเทคโนโลยีที่นำมาใช้ค่อนข้างหลากหลาย

ในประเทศไทยคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักเรา เพราะส่วนมาก Bit.studio ทำงานให้ลูกค้าต่างชาติ โดยติดตั้งงานไปแล้วกว่า 25 เมืองทั่วโลก กับ 800 โปรเจ็กต์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ Bit.studio ยังเป็นบริษัทไทยหนึ่งเดียวที่เป็น AI engineer ให้กับ Google

สมัยนี้พิพิธภัณฑ์ไม่ได้น่าเบื่ออีกต่อไป เนื่องจากทำให้คนได้มีปฏิสัมพันธ์กับการจัดแสดงและสิ่งที่อยากจะสื่อ

บริษัทเราชอบศิลปะมากอยู่แล้ว FLOCK OF จึงเกิดขึ้นภายใต้ไอเดียที่เราอยากสร้างงานที่อยู่ระหว่างโลกความจริงกับจินตนาการ ทำอะไรที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

สิ่งที่อยากจะเล่าคือ เหมือนทุกคนได้ลงไปอยู่ในห้วงทะเลลึก มีฝูงปลาว่ายล้อมรอบอยู่ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สัมผัสประสบการณ์แบบนี้ในชีวิตจริง

ตอนเริ่มถือว่ายากมากที่จะสร้างปลาให้สามารถแหวกว่ายในอากาศได้ ต้องมีความรู้ด้านฟิสิกส์ก่อน

แรงบันดาลใจมาจากลูกโป่งเปิดงานที่เมื่อตัดเชือกออกก็จะลอยขึ้น โจทย์คือทำอย่างไรให้ลอยแบบมีทิศทางและสามารถควบคุมได้ ซึ่งเรามีเทคนิคพิเศษที่ทำให้ปลาลอยขึ้นอย่างมีทิศทางและอยู่เกาะกลุ่มกันได้

นี่คือก้าวเเรกของ FLOCK OF ซึ่งเริ่มที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค ก่อน หลังจากนั้นมันจะถูกนำไปโรดโชว์ทั่วโลก นายเกียรติยศกล่าว

ชีวิตน่าสนใจมากขึ้น ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค

ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า หน้าที่หลักของเราคือการสร้างและดำเนินการเกี่ยวกับการเป็นศูนย์กลางสตาร์ตอัพของเด็กรุ่นใหม่ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยไลฟ์สไตล์แบบใหม่ ๆ

ทรู ดิจิทัล พาร์ค เปิดมากว่า 5 ปีแล้ว ชัดเจนว่าเด็กรุ่นใหม่เลือกที่จะเดินทางออกมาจากในเมืองเล็กน้อยและมีออฟฟิศอยู่ที่นี่ เพื่อใช้ชีวิตการทำงานร่วมกับไลฟ์สไตล์แบบวัยรุ่น

สิ่งที่เราทำมาตลอด ซึ่งรวมถึง FLOCK OF ด้วยจะเข้าไปอยู่ในวิถีของคนรุ่นใหม่ในแต่ละวัน ทำให้ชีวิตสดใหม่และน่าสนใจมากขึ้น

สำหรับ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เราเริ่มต้นจากการผลักดันการสร้างสตาร์ตอัพที่เป็นเทรนด์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ซีเรียสพอสมควร ทำให้เราเริ่มเห็นอีกด้านหนึ่งของชีวิตที่ยังไม่ได้ทำ ประกอบกับเทรนด์ศิลปะกำลังได้รับความนิยมขึ้นมา

ก่อนหน้านี้ทรู ดิจิทัล พาร์ค เคยจัดงานลักษณะนี้มาแล้วกับสตูดิโอของประเทศเกาหลี คือ “The Gate Immersive theater” ที่เอาภาพเคลื่อนไหวมาฉายบนกำแพงและพื้นห้อง สู่งานครั้งนี้ที่เราพยายามทำให้ใหญ่กว่าและจับต้องได้กว่าเดิม

แน่นอนเราต้องคาดหวังให้คนมาเยอะ ๆ เราอยากให้การเสพงานศิลปะเป็นเรื่องธรรมดาและเข้าถึงง่าย ควรอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน เราจึงอยากผลักดันให้งานลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง และจะดีใจมากถ้างานแบบนี้เกิดขึ้นในที่ทำงานทุกตึก ดร.ธาริตกล่าว