เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดรายละเอียดรถยนต์เอสยูวี พรีเมี่ยมขนาดใหญ่ TANK 500 เตรียมเปิดราคา 28 ก.ย. นี้มี 2 รุ่น เครื่องยนต์เบนซิน-ไฮบริด 2.0 ลิตร เอาใจคอออฟโรดไทย พร้อมเผยมียอดจองสิทธิกว่า “พันคัน”
วันที่ 15 กันยายน 2566 บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยรายละเอียดของรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.ย.นี้ กับรถเอสยูวี พรีเมี่ยม ออฟโรดอย่าง GWM TANK 500 ใหม่ ที่มาพร้อมกับการสะท้อนสุนทรียภาพแห่งการผจญภัย
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 ลุ้นซื้อไอโฟน-เครื่องใช้ไฟฟ้า “จุลพันธ์” นัดถกหาข้อสรุป
ภายใต้แนวคิด “Nothing is Unreachable ไม่มีความสำเร็จไหนที่ไปไม่ถึง” ที่จะสร้างความตื่นเต้น ความแตกต่าง และประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับทุกเส้นทาง
รถคันนี้ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ TANK ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย มาพร้อมกับดีไซน์ที่บึกบึนและแข็งแกร่ง ในขณะที่แฝงไปด้วยความเรียบง่ายและหรูหรา
GWM TANK 500 ออกแบบตามลักษณะที่เป็น DNA ของ TANK เน้นความแข็งแกร่ง ทะมัดทะแมง เปี่ยมไปด้วยความเรียบหรูและสง่างาม ด้วยมิติตัวรถ 1934 x 5078 x 1905 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) มีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,850 มม.
มาพร้อมระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ดับเบิล ครอส อาร์ม และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์สามารถลุยน้ำที่ระดับความลึก 800 มม.
GWM TANK 500 ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 244 แรงม้า แรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด 380 นิวตันเมตร และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตันเมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีด (9HAT)
มีโหมดการขับขี่ที่หลากหลายให้เลือกถึง 11 โหมด ได้แก่
- โหมดปกติ
- โหมดสปอร์ต
- โหมดประหยัด
- โหมดอัตโนมัติ
- โหมดพื้นโคลน
- โหมดพื้นทราย
- โหมดพื้นหิน
- โหมด4L
- โหมด4H
- โหมดพื้นหิมะ
- โหมดเชี่ยวชาญ
รถคันนี้ได้รับการออกแบบกระจังหน้าขนาดใหญ่ผสานช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK ที่รับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง ไฟหน้า Intelligent LED มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชั่นหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกด้านหน้าและหลังแบบ LED
ด้านท้ายออกแบบภายใต้แนวคิดออฟโรด ด้วยประตูท้ายแบบ Horizontal ที่มาควบคู่กับระบบดูดไฟฟ้าเพื่อผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกสบายในการปิดประตูท้าย ไฟท้าย Vertical LED ที่มาพร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกแบบ LED อย่างเต็มระบบ
บันไดข้างที่เปิด–ปิดด้วยระบบไฟฟ้า หลังคาซันรูฟระบบไฟฟ้าแบบพาโนรามิกขนาดใหญ่ที่มาพร้อมราวหลังคา เสาอากาศแบบ Shark Fin และสปอยเลอร์ท้าย ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วในรุ่น ULTRA ส่วนรุ่น PRO อัลลอยขนาด 18 นิ้ว
คอนโซลหน้าและชุดเกียร์แบบ Electronic Shifter สีทูโทน นาฬิกาแบบคลาสสิก เบาะหนัง NAPPA ลำโพง Infinity 12 ตัว มีระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ ฟังก์ชั่นไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบหลากสีและเป็นจังหวะ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบกรองอากาศ PM2.5 และระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า ระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และเบาะหนัง NAPPA โดยเบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มีระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat ส่วนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง มีปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 มีหน้าจอควบคุมระบบระบายอากาศ และเบาะระบายอากาศ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 3 มีพนักพิงปรับแบบไฟฟ้า
GWM TANK 500 มาพร้อมหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ซึ่งรองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง และแสดงข้อมูลการขับขี่ และเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า เพื่อเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ พวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทางแบบมัลติฟังก์ชั่นและ Paddle มีระบบเปิด-ปิดล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้และออกห่างจากรถ ระบบกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start
นอกจากนี้ GWM TANK 500 ยังมีระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด ด้วยกลไกการถ่ายโอนกำลัง ทำงานร่วมกันกับกลไกล็อกของกล่องถ่ายโอนทั้งล้อหน้าและล้อหลัง สร้างระบบขับเคลื่อนออฟโรดแบบ 3 locks เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ออฟโรดที่ดีเยี่ยม, ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Off-road (Offroad Cruise Control), ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) ระบบจะประเมินความลึกของระดับน้ำและแสดงผลของระดับน้ำประกอบภาพรถบนหน้าจอกลาง
ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent) ระบบจะจดจำข้อมูลของพื้นที่รอบเส้นทางการขับขี่ของกล้องรอบตัวรถและสร้างภาพเสมือนแบบ 360 องศา จากมุมมองด้านบนของตัวรถ ในลักษณะแบบโปร่งใสเห็นพื้นผิวถนนด้านล่าง และแสดงภาพด้านหน้าของรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบถึงสภาพถนนใต้ท้องรถ เพิ่มความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
- รวมถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยมากมาย ได้แก่
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP)
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (MEB)
- ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA/ RCTB)
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
- ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
- ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)
สำหรับ GWM TANK 500 มี 2 รุ่นย่อย ได้ แก่
- GWM TANK 500 PRO
- GWM TANK 500 ULTRA
มีสีตัวถังภายนอกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเทา และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) ส่วนสีรถภายในทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA และตัวรถสีเทาคริสตัล)
ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะประกาศราคาจำหน่ายพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.ย. 2566 อย่างแน่นอน หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศจองสิทธิซื้อกว่า 1,000 คันไปแล้ว