
เบนซ์ ประเทศไทย ปรับโมเดลธุรกิจใช้ขายราคาเดียวทั่วประเทศ “Retail of the Future” เน้นความชัดเจนโปร่งใส ลั่นแบกสต๊อกรถไว้เอง หวังยกการยกระดับประสบการณ์ “ลูกค้า-ดีลเลอร์”
วันที่ 26 กันยายน 2566 นายมาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทใช้รูปแบบการดำเนินธุรกิจค้าปลีกรถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์ ในประเทศไทยใหม่ หลังจากศึกษาและหารือร่วมกับตัวแทนจำหน่าย ว่าบริษัทจะปรับรูปแบบธุรกิจใหม่ภายใต้ชื่อ “Retail of the Future”
โดยจะปรับใช้นโยบายขายราคาเดียวทั่วประเทศ และให้ลูกค้าผู้ซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์ ซื้อรถโดยตรงกับบริษัทจากก่อนหน้าจะเป็นการซื้อรถยนต์ผ่านตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) เพื่อสร้างความชัดเจนโปร่งใส่ให้กับลูกค้าผู้ซื้อรถ และช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงานให้มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ
สำหรับรูปแบบการดำเนินการจะเปลี่ยนไป เป็นการขายตรงระหว่าง บริษัทกับลูกค้าผู้ซื้อรถโดยจะเป็นราคาจำหน่ายราคาเดียวทั่วประเทศ ขณะที่ดีลเลอร์จะเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ให้บริการกับลูกค้าแทน
“โมเดลนี้เราได้เริ่มทำมาในหลาย ๆ ประเทศ กว่า 10 แห่ง ทั้งใน ยุโรป เยอรมนี อังกฤษ ออสเตรเลียอเมริกาใต้ อินเดีย และมาเลเซีย โดยดีลเลอร์ไม่ต้องแบกรับภาระด้านการจัดการ สต๊อกรถยนต์ ก็จะลดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจลงไป“
ทั้งนี้เชื่อว่า กลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้ผู้จำหน่ายฯ มีประสิทธิภาพมากขึ้นในด้านการบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเมอร์เซเดส–เบนซ์ ทั้งในด้านราคาและข้อเสนอที่เหมาะสมบนมาตรฐานเดียวกัน บนพื้นฐานความโปร่งใสของราคา และการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า
สำหรับโมเดลธุรกิจใหม่นั้นไม่ใช่เป็นการขายรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ แต่เป็นการสนับสนุนและส่งเสริมเครือข่ายการค้าปลีกของแบรนด์ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
- ดีลเลอร์เบนซ์เปลี่ยนแนวรบ เลิกหั่นราคาเปิดศึกของแถม
- “เบนซ์” ขายรถผ่านเว็บไซต์เต็มตัว ลั่น ดีลเลอร์เห็นประโยชน์ทุกราย
ทั้งนี้ เมอร์เซเดส–เบนซ์ จะเริ่มใช้โมเดลธุรกิจอย่างเต็มระบบ ลภายในไตรมาสแรกของปี 2567 หลังจากได้มีการเปลี่ยนสัญญากับผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศจากเดิมที่มีการสั่งซื้อรถยนต์จาก เมอร์เซเดส–เบนซ์ประเทศไทย เป็นการบริการจัดการสินค้าให้บริษัทแทน ซึ่งผู้แทนจำหน่ายจะได้คอมมิชชั่นจากการส่งมอบรถยนต์ให้ลูกคาแทน
“การทำนโยบายราคาเดียว สุดท้ายเราเชื่อว่าจะดีขึ้นเกิดประโยชน์กับทุกคนดีลเลอร์จะได้คอมมิชชั่นจากการส่งมอบรถในแต่ละคัน และเชื่อว่าจะดีกับธุรกิจในอนาคตแน่นอน และหวังช่วยสนับสนุนส่งเสริมยอดขายในระยะยาว และลูกค้าจะเกิดความพึงพอใจ ด้วยการซื้อสินค้าจากแบรนด์“
นายมาร์ทินยังกลาวต่อไปว่า บริษัทไม่มีนโยบายขายรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่องจากลูกค้าลักเซอรี่ ยังต้องเจอกันมีจุดทัชพอยต์ ที่สำคัญต้องเจอกับคน ได้สัมผัส และทดลองรถอยู่“