ซีอีโอคิงส์เกตโดนดีเอสไอสั่งฟ้อง 3 ข้อหา “ยึดที่ดินรัฐ ครอบครองป่า สร้างตะแกรงรุกทางหลวง” หลังขยายเวลาพิจารณาอนุญาโตตุลาการไทย-คิงส์เกตอีก 6 เดือน สิ้นสุด 30 มิ.ย. 67 ด้าน 2 ผู้บริหารเปิดหน้าสู้ ตั้งคำถามกระบวนการยุติธรรมไทยสั่งฟ้องวันหยุดตรงกับเจรจา
วันที่ 5 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณี บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด บริษัทแม่ของอัครา ฟ้องรัฐบาลไทยด้วยการทำคำเสนอข้อพิพาท (สเตตเมนต์ ออฟ เคลม) กับราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับการประกอบกิจการเหมืองทองของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทย-ออสเตรเลีย หรือ ทาฟต้า
ซึ่งปัจจุบันอยู่ในกระบวนอนุญาโตตุลาการขั้นตอนเจรจาครบกำหนดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ล่าสุดทั้งรัฐบาลไทยและคิงส์เกตฯ ได้ตกลงขยายขั้นตอนการเจรจาในกระบวนอนุญาโตตุลาการออกไปอีก 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาว่า แม้การเจรจายังเป็นไปด้วยดี เพราะเหมืองอัคราเริ่มกลับมาเปิดดำเนินการบางส่วน แต่เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กลับสั่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหา ได้แก่ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาที่ 1 พร้อมด้วยนายปกรณ์ สุขุม ผู้ต้องหาที่ 2 นายไมเคิล แพรทริค โมโนกาน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้ต้องหาที่ 4 ซึ่งจะนัดส่งตัวฟ้องในวันที่ 24 มกราคมนี้ พร้อมระบุขอศาลออกหมายจับจำเลยที่ 3 เพราะหลบหนีเเล้ว ทำให้ต้องติดตามว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร จะยิ่งบานปลายหรือไม่
ด้านนายเจมี่ กิ๊บสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด กล่าวว่า ข่าวเรื่องการสั่งฟ้อง สำนักงานอัยการคดีพิเศษไม่ได้แจ้งให้ทางบริษัทหรือผู้ต้องหาทราบล่วงหน้า ทั้ง ๆ ที่ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทประสานงานกับสำนักงานอัยการสูงสุดเรื่องนี้มาตลอดสองถึงสามปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันบริษัทยังไม่ทราบจากอัยการโดยตรง ว่าสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง อาจจะทราบในวันที่ 24 มกราคมตามที่นัดหมายไว้ จึงตั้งข้อสงสัยว่า การกระทำนี้เป็นไปตามหลักนิติธรรมหรือไม่ อีกทั้งวันที่มีข่าวออกมายังเป็นวันเดียวกับวันที่บริษัทคิงส์เกตและรัฐบาลไทยตัดสินใจเลื่อนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศออกไปเป็นวันที่ 30 มิถุนายน 2567
“ภาครัฐควรตระหนักต่อสิ่งที่จะส่งผลกับการตัดสินใจและความมั่นใจของนักลงทุน เศรษฐกิจไทยโดยรวม ยืนยันข้อกล่าวหาตามที่ปรากฏในสื่อไม่มีมูลความจริง บริษัทชี้แจงได้ ถ้ามีการสั่งฟ้องเกิดขึ้นทางบริษัทจะต่อสู้คดีในศาลอย่างถึงที่สุด” นายเจมี่ กล่าว
นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแจ้งข้อกล่าวหาต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรและเป็นการทำเฉพาะตัว ไม่ใช่ผ่านสื่อมวลชน ถือเป็นการละเมิดสิทธิอันชอบธรรม เกิดความเสียหายต่อตัวผู้ถูกกล่าวหา ครอบครัว และญาติ เป็นข้อกล่าวที่ร้ายแรง ทำให้เสื่อมค่า ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ พร้อมกล่าวว่า ขอถามผมและนายปกรณ์ยังเป็นคนไทยที่ได้รับการคุ้มครองรับรองสิทธิตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
นอกจากนี้ กรณีนายไมค์ โมนาฮาน เป็นการกล่าวหาให้ร้ายบุคคลที่สาม เพราะนายไมค์สิ้นสุดการเป็นพนักงานและผู้บริหารเหมืองแร่ทองคำตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2558 และอาจนำไปสู่ปัญหาในเชิงการทูตจากการไปกล่าวหาพลเมืองประเทศของนายไมค์ ต้องขอความกรุณาอัยการสูงสุดสอบทานเรื่องนี้จริงจัง อำนวยความยุติธรรมให้กับผู้ถูกกล่าวหาด้วย
ฟื้นเหมืองโพแทชด่านขุนทด “ไทยคาลิ” พร้อมขุดก้อนแรก
“อัคราฯ” โชว์จ่ายค่าภาคหลวง 22 เดือนพันล้าน แต่ 27 แปลงไม่พบทอง
ครั้งแรกดึงเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐ 525 ล้านบาท ให้ชุมชนรอบเหมืองแร่
