
ค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบเดิม จับตาความขัดแย้งตะวันออกกลาง นักลงทุนต่างพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และทองคำ
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการณ์เคลื่อนไหวของตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดวันจันทร์ (16/6) ที่ระดับ 32.48/49 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (13/6) ที่ระดับ 32.44/46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวันศุกร์ (13/6) มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ประจำเดือน มิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 60.5 จุดสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 53.5 จุดจากระดับ 52.2 จุดในเดือน พ.ค. โดยดัชนีดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและสงครามการค้าหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่อนผันการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อประเทศคู่ค้าออกไปเป็นเวลา 90 วัน
นอกจากนี้ผู้บริโภคยังคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในช่วง 1 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้น 5.1% ต่ำกว่าคาดการณ์ในเดือน พ.ค. ที่คาดว่าจะเพิ่ม 6.6%
แห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้บรรดานักลงทุนต่างพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิเช่น สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และทองคำ หลังจากที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีฐานทัพและโรงงานผลิตนิวเคลียร์ของอิหร่านในวันศุกร์ (13/6) ส่งผลให้อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายทางทหารในอิสราเอเพื่อเป็นการตอบโต้ หนุนให้ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้น
โดยในวันเสาร์ (14/6) ซัยยิด บาดร์ บิน ฮามัด บิน ฮามูด อัลบูไซดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโอมานเปิดผยว่า การเจรจานิวเคลียร์ทางอ้อมรอบที่ 6 ระหว่างอิหร่านและสหรัฐในวันอาทิตย์ (15/6) ณ กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน จะไม่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่อิหร่านแจ้งแก่ประเทศที่เป็นคนกลางอย่างโอมานและกาตาร์ว่า อิหร่านจะยอมเจรจาอย่างจริงจังก็ต่อเมื่ออิหร่านได้ตอบโต้อย่างสาสมแล้วเท่านั้น
ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า รัฐบาลอิหร่านได้ขอให้โอมาน กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย ช่วยกดดัน ปธน.ทรัมป์ให้ใช้อิทธิพลต่อนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เพื่อให้เกิดการหยุดยิงโดยเร็วที่สุด โดยอิหร่านพร้อมจะแสดงความยืดหยุ่นในการเจรจาปัญหานิวเคลียร์เป็นการตอบแทน
นอกจากนี้ในวันจันทร์ (16/6) ยังมีการประชุมของผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G7 โดยหารือกันในประเด็นการค้าโลก ท่ามกลางความพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่เกิดจากสงครามภาษีและแนวทางการทูตแบบฝ่ายเดียวของประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระหว่างการประชุมมาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดาและเจ้าภาพการประชุมเตือนว่า ขณะนี้โลกกำลังเผชิญภาวะแตกแยกและอันตรายยิ่งขึ้น พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจเพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์แสดงจุดยืนชัดว่าเขาไม่เห็นพ้องกับชาติพันธมิตรในหลายเรื่อง โดยหนึ่งในประเด็นที่เขาเน้นย้ำคือการขับรัสเซียออกจากกลุ่ม G7 เมื่อปี 2557 หลังจากรัสเซียเข้ายึดและผนวกรวมไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งทรัมปชี้ว่าการขับรัสเซียออกจากกลุ่มถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ และสำหรับการประชุม G7 ในวันอังคาร (17/6) จะเป็นวาะว่าด้วยสถานการณ์ยูเครน โดยประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน คาดว่าจะเรียกร้องให้ผู้นำ G7 รวมพลังกันเพื่อยุติสงครามที่รัสเซียก่อขึ้นต่อยูเครน
เฟดคงดอกเบี้ย
สำหรับในวันพุธที่ผ่านมา (18/6) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25-4.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด และจากข้อมูลที่เฟดได้รับมา บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่ง แม้ว่าความผันผวนของยอดส่งออกสุทธิได้ส่งผลกระทบต่อข้อมูลก็ตาม ขณะที่อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
คณะกรรมการ FOMC พยายามหาแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว ส่วนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจลดลงแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง และคณะกรรมการยังคงให้ความสนใจกับความเสี่ยงที่จะมีต่อ Dual Mandate ของเฟด คือการจ้างงานที่ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนตัวสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว คณะกรรมการได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% ส่วนในการพิจารณาเรื่องขนาดและเวลาของการปรับช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มเติมนั้น คณะกรรมการจะใช้ความระมัดระวังในการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า รวมทั้งแนวโน้มของพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และสมดุลของความเสี่ยง
คณะกรรมการจะยังคงปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) นอกจากนี้ คณะกรรมการมีความมุ่งมั่นอย่างมากในการสนับสนุนการจ้างงานที่ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพ และทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ส่วนในการประเมินแนวทางที่เหมาะสมของนโยบายการเงินนั้น คณะกรรมการจะยังคงจับตาข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า ขณะเดียวกันคณะกรรมการจะเตรียมความพร้อมเพื่อปรับแนวทางนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เฟดไม่สามารถบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ของคณะกรรมการ
นอกจากนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดได้จัดแถลงข่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินกล่าวว่า นโยบายการเงินอาจจะสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจในระดับหนึ่ง แต่ในระยะใกล้นี้ เขายังไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะอ่อนแอลง โดยคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจากราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้ เนื่องจากผลกระทบจากภาษีศุลกากรของ ธปท.โดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลต่อผู้บริโภคสหรัฐ
ขณะที่นายพาวเวลล์ไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน และความเสี่ยงที่ความขัดแย้งดังกล่าวจะมีต่อตลาดน้ำมันโลกหรือตลาดอื่น ๆ โดยกล่าวเพียงว่า แม้ว่าราคาพลังงานอาจจะปรับตัวสูงขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานมักจะอ่อนตัวลงในภายหลัง และม่มีผลกระทบที่ยั่งยืนต่อเงินเฟ้อ โดยตลาดยังจับตาดูทิศทางความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอย่างใกล้ชิด และรอดูท่าทีของชาติมหาอำนาจต่าง ๆ ต่อข้อพิพาทระหว่างสองชาติ
จับตาการเมืองในประเทศ
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ออกมาแถลงขออภัยประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากันพูชา ที่ถูกเผยแพร่เมื่อวาน (18/6) เพราะไม่ทราบว่าจะถูกบันทึกคลิปไว้ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศได้ทำหนังสือประท้วงการกระทำของฝ่ายกัมพูชาไปแล้ว และนายกรัฐมนตรียังระบุว่า จากนี้จะระมัดระวังการพูดคุยกับทางฝ่ายกัมพูชามากขึ้น
นายกฯกล่าวอีกว่า ได้พูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 และทางกองทัพแล้ว ซึ่งมีความเข้าใจกันดี รัฐบาลและกองทัพพร้อมผนึกกำลังสู้กับภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ โดยย้ำวาจะใช้แนวทางสันติวิธี เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไทยในกัมพูชาและประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน ขณะที่ฝ่ายค้านมีการออกมากดดันให้ลาออกหรือยุบสภา
นอกจากนี้ตลาดยังจับตาดูทิศทางการชุมนุมต่อต้านนายกรัฐมนตรีโดยมวลชนกลุ่มต่างๆ ซึ่งจะมีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ โดยระหว่างสัปดาห์ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.38-32.94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดในวันศุกร์ (20/6) ที่ระดับ 32.86/88 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดวันจันทร์ (16/6) ที่ระดับ 1.1540/41 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (13/6) ที่ระดับ 1.1536/38 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยในวันจันทร์ (16/6) นายโยอาคิม นาเกล ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (Bundesbank) กล่าวว่า ขณะนี้เงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ในระดับเป้าหมายแล้ว และคาดว่าจะไม่ลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนด อ
ย่างไรก็ตามธนาคารกลางยุโรป (ECB) ควรเก็บทางเลือกทั้งหมดไว้เพื่อความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายในอนาคตท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน โดยนาเกลคาดว่าเศรษฐิจเยอรมนีในไตรมาสที่ 2 อาจจะชะงักงันและสงครามการค้าอาจทำให้เศรษฐกิจเยอรมนีเติบโตลดลงถึง 0.75% ในระยะกลาง
ทั้งนี้ระหว่างสัปดาห์ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1445-1.1614 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดในวันศุกร์ (20/6) ที่ระดับ 1.1515/17 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน เปิดตลาดวันจันทร์ (16/6) ที่ระดับ 144.18/19 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (13/6) ที่ระดับ 143.54/55 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อวันจันทร์ (16/6) นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มีโอกาสพบกันเป็นเวลา 30 นาที ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7 ซึ่งญี่ปุ่นหวังว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนในการผลักดันข้อตกลงการค้าระหว่างสองประเทศ แต่การหารือดังกล่าวยังไม่สามารถนำไปสู่การลดหรือยกเลิกภาษีนำเข้าที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น
ซึ่งทางอิชิบะระบุว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นไม่ตรงกันในบางประเด็น และปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าเป็นประเด็นใดบ้าง และในช่วงเช้าวันอังคาร (17/6) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% นอกจากนี้ BOJ ประกาศว่าจะชะลอความเร็วในการลดซื้อพันธบัตรรัฐบาลตั้งแต่เดือน เม.ย. 2569 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ จะดำเนินการปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติอย่างรอบคอบระมัดระวังตามการคาดการณ์ของตลาด
ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนอยู่ในกรอบระหว่าง 143.63-145.76 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดในวันศุกร์ (20/6) ที่ระดับ 145.35/37 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ