รายงานข่าวจาก “แกร็บ”(Grab) ผู้ให้บริการซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่าธุรกิจการให้บริการสั่งอาหารแบบออนดีมานด์บนแอปพลิเคชั่นภายใต้ชื่อ แกร็บฟู้ด (GrabFood)มียอดสั่งอาหารกว่า 4 ล้านออเดอร์ภายใน 4 เดือนแรกของปี 2562 แซงหน้าปี 2561 ที่มียอดสั่งอาหารตลอดปี 3 ล้านออเดอร์
โดย “แกร็บฟู้ด”ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดด้านสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นในเดือนตุลาคมปี 2561 ใช้เวลาเพียงแค่ 8 เดือนหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเล็ต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
จากการวิจัยทางการตลาดโดยกันตาร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “แกร็บฟู้ด”ขึ้นเป็นแพลตฟอร์มการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นอันดับ 1 ของผู้บริโภคในไทย โดย 44 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคลงคะแนนให้แกร็บฟู้ดเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคนิยมใช้มากที่สุดในประเทศไทย และเป็นแพลตฟอร์มบริการส่งอาหารที่ใช้บ่อยที่สุด
หลังจากที่ธุรกิจแกร็บฟู้ดเติบโตอย่างมากในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ “แกร็บฟู้ด”เตรียมขยายการให้บริการอีกอย่างน้อย 6 เมืองทั่วประเทศไทยภายในปี 2562 เพื่อส่งตรงความสะดวกสบายของบริการส่งอาหารให้กับผู้บริโภคไทยให้มากขึ้น โดยเชื่อว่าการร่วมเป็นพันธมิตรกับเซ็นทรัลกรุ๊ป ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกออมนิแชแนลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการขยายบริการของแกร็บฟู้ดยิ่งขึ้น และทำให้สามารถขยายเครือข่ายร้านอาหารไปยังเมืองที่เป็นจุดมุ่งหมายได้อย่างรวดเร็ว
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในเดือนเมษายน มีผู้สั่งแกร็บฟู้ดมากกว่า 1 ล้านออเดอร์ภายใน 3 อาทิตย์ การที่แกร็บฟู้ดเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้เราสามารถเอาชนะคู่แข่งที่อยู่ในอุตสากรรมการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นในไทยมานาน ได้ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ทั้งหมดนี้เกิดจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของพาร์ทเนอร์ผู้ส่งอาหารและพาร์ทเนอร์ร้านค้า เราจะทำงานหนักขึ้นเพื่อเสริมสร้างโอกาสในการหารายได้ รวมถึงช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจของพาร์ทเนอร์เราเติบโตยิ่งกว่าเดิม”
แกร็บระบุว่า ประโยชน์สำหรับผู้บริโภคในไทยมีดังนี้
- จำนวนพาร์ทเนอร์ผู้ส่งอาหารที่มากกว่าทำให้ส่งอาหารได้เร็วกว่า: พาร์ทเนอร์ผู้ส่งอาหารของแกร็บฟู้ดมีรายได้ต่อเดือนเพิ่มขึ้นกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้มีพาร์ทเนอร์มาสมัครให้บริการกับแกร็บฟู้ดเพิ่มขึ้น โดยจำนวนพาร์ทเนอร์ผู้ส่งอาหารของแกร็บฟู้ดเพิ่มขึ้น 55 เท่า นับจากเดือนมกราคม 2561 ถึงเมษายน 2562
- พาร์ทเนอร์ร้านค้าที่มากกว่าทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากกว่า: จำนวนพาร์ทเนอร์ร้านค้าของแกร็บฟู้ดเติบโตขึ้น 250 เท่านับจากเดือนมกราคม 2561 ถึงเมษายน 2562 โดยหลังจากที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับแกร็บฟู้ด พาร์ทเนอร์ร้านค้ามีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าต่อเดือน จากการที่แกร็บมีฐานผู้ใช้บริการอย่างกว้างขวาง
นายธรินทร์เสริมว่า “ด้วยเครือข่ายร้านอาหารดังระดับประเทศ ระดับนานาชาติ ไปจนถึงร้านอาหารรายย่อย ทำให้แกร็บฟู้ดสามารถให้บริการส่งตรงอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์โปรดของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกความต้องการ และนี่คือสาเหตุว่าทำไมเราถึงขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 และเป็นบริการส่งอาหารออนดีมานด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย”
โดยแกร็บฟู้ดให้บริการส่งอาหารจากเครือข่ายร้านอาหารชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Bon Chon, Pepper Lunch, Tenya, Ootoya, After You, Auntie Anne’s, KOI Thé, Dakasi, Kamu รวมถึงร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังอย่าง เจ๊ไฝ, ผัดไทยประตูผี, นายเพ้ง ราชาก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่, เจ๊เกียง, รุ่งเรืองก๋วยเตี๋ยวหมู, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ วัฒนาพานิช, โกอ่าง ข้าวมันไก่ประตูน้ำ
แกร็บฟู้ด เปิดให้บริการมากที่สุดหลายพื้นที่ในระดับภูมิภาค และเป็นบริการส่งอาหารเดียวที่มีการดำเนินธุรกิจใน 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม โดยแกร็บฟู้ดตั้งเป้าที่จะเป็นบริการส่งอาหารอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ภายในปีนี้