ด่วน! ศบค. จ่อขยายพื้นที่จังหวัดล็อกดาวน์ ชลบุรี-ทั่วประเทศ 

pcc-breaking-news-cover-ข่าวด่วน

ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 (ศบค.) จ่อ ขยายพื้นที่จังหวัดล็อกดาวน์ ชลบุรี หรืออาจบังคับใช้ทั่วประเทศ 

วันที่  16 กรกฎาคม 2564 ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธาน เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ภายหลังออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร รวมทั้ง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

รายงานข่าวระบุว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคเกี่ยวการฉีดวัคซีนไขว้ หรือ วัคซีนสูตรผสม สำหรับประชาชนสามารถฉีดวัคซีนซิโนแวคเป็นเข็มที่ 1 และ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 2 และแนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม อนุญาตให้ฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หรือ วัคซีนเทคโนโลยี mRNA (Pfizer) รวมถึงรับทราบการปลดล็อคชุดตรวจโควิดแบบเร่งด่วน Rapid Antigen Test 

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับมาตรการเพิ่มขึ้น เช่น การขยายมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก คือ จังหวัดชลบุรี หรือ อาจจะบังคับใช้มาตรการทั่วประเทศ โดยให้กลับไปหารือและเสนอ ศบค.โดยเร็วที่สุด

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. แถลงว่า ที่ประชุมศบค.นัดพิเศษ ได้รับทราบการรายงานผลการกำกับมาตรการยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในพื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด 10 จังหวัด ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา และมีข้อสรุปในที่ประชุม ว่า อาจจะมีความจำเป็นต้องปรับมาตรการให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะมีความจำเป็นต้องปิดกิจการบางอย่าง เช่น กิจการที่อนุญาตให้เปิดให้บริการได้จนกระทั่งถึงเวลา 20.00 น.

“ในที่ประชุมวันนี้ได้มีการพิจารณาว่าอาจจะมีการปิดให้มากขึ้น ปิดให้มากที่สุด และอาจจะมีการปรับมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งต้องติดตามการรายงานผลการพิจารณาในเร็ว ๆ นี้”

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ที่ผ่านมามาตรการยกระดับมาตรการควบคุมเป็นการล็อกดาวน์บางพื้นที่ มีการควบคุมเข้มงวดใน 10 จังหวัด ไม่ใช่ทั้งประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบและเดือดร้อนน้อยที่สุด

“แต่เมื่อมีการรายงานทบทวนการบังคับใช้มาตรการ 5 วันที่ผ่านมา ยังพบว่าการบังคับใช้มาตรการยังน่ากังวล ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผอ.ศบค.จึงขอให้คณะแพทย์ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุข ที่มี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร เป็นประธานทบทวนมาตรการสาธารณสุขเพื่อนำเสนออย่างเร่งด่วน ซึ่งอาจจะมีการปรับมาตรการให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นจากนี้”

รายงานข่าวจาก ศบค.เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.นัดพิเศษ ยังมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขยกระดับมาตรการเพิ่มขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ขยายเป็นวงกว้างครบทั้ง 77 จังหวัดแล้ว นอกจากนี้บางจังหวัดพบตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นจำนวนมาก ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข จัดทำมาตรการยกระดับขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ หรือ จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เช่น จังหวัดชลบุรี โดยให้นำกลับมาเสนอ ศบค.โดยเร็วที่สุด เพื่อออกเป็นคำสั่งเป็นข้อกำหนดฉบับต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับจังหวัดชลบุรี ในรอบ 10 วันที่ผ่านมา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมาตลอด เห็นได้จากเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา มียอดผู้ติดเชื้อ 262 ราย 8 ก.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 290 ราย 9 ก.ค. เพิ่มเป็น 317 ราย 10 ก.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 359 ราย และเพิ่มขึ้นมาตลอดจนวันนี้(16 ก.ค.) เพิ่มอีก 530 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 14,056 รายแล้ว (ตามตาราง)