แรงซื้อกลุ่มอีวี ดันหุ้นไทยปิดบวก 16.76 จุด ขานรับ ครม.เคาะแพ็คเกจ EV

แรงซื้อกลุ่มอีวี ดันตลาดหุ้นไทยบวก 16.76 จุด มูลค่าซื้อขายรวม 9.1 หมื่นล้านบาท ขานรับ ครม.เคาะแพ็คเกจรถยนต์ไฟฟ้า-ฟันด์โฟลว์ทะลัก ด้าน “เอเซียพลัส” เผยเฉพาะเดือน ก.พ.65 ต่างชาติซื้อสุทธิสูงสุดในรอบ 17 ปี

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 7/2565 ได้มีการพิจารณาแพคเกจยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพื่อกระตุ้นการใช้รถอีวีในไทย 3 ประเภท ได้แก่ รถยนต์, รถจักรยานยนต์ และรถกระบะ ทั้งนี้เมื่อผ่าน ครม.แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปออกกฎหมายและทำสัญญากับค่ายรถที่เข้าร่วม

สำหรับมาตรการดังกล่าวจะส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า 3 กลุ่ม คือ 1.เงินอุดหนุนรถยนต์และรถกระบะคันละ 70,000-150,000 บาทต่อคัน และรถจักรยานยนต์ 18,000 บาทต่อคัน 2.ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จาก 8% เป็น 2% และรถกระบะเป็น 0% 3.ลดอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศและนำเข้าทั้งคัน (CBU) สูงสุด 40% สำหรับรถยนต์ถึงปี 2566 และ 4.ยกเว้นอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศ (CKD) จำนวน 9 รายการ

อย่างไรก็ตาม รถกระบะต้องผลิตในประเทศเท่านั้นจึงได้สิทธินี้ รถยนต์และรถจักรยานยนต์นำเข้าได้ แต่ปีที่ 3 ต้องผลิตในประเทศ นอกจากนี้ ครม.ได้อนุมัติลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร 3 เดือน

หุ้นไทยทะยานบวก 16.76 จุด แรงซื้อหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กฯ-โรงไฟฟ้า

สำหรับภาพความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้หลังจากทราบผลมติ ครม.พบว่าดัชนี SET Index ดีดตัวพุ่งขึ้น โดยปิดตลาดอยู่ที่ 1,701.45 จุด บวก 16.76 จุด หรือ +0.99% มีมูลค่าซื้อขายรวม 91,607.39.91 ล้านบาท โดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และโรงไฟฟ้า หนุนตลาด (DELTA +8%, KCE +4.66%, HANA +4.58%, EA +4.37%, GULF +3%, GPSC +2.03%)

 

ด้านนายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นวันนี้ค่อนข้างปรับตัวบวกทั้งโลก ภายหลังความกังวลภาวะสงครามรัสเซียและยูเครนน่าจะเห็นท่าทีค่อนข้างไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากยูเครนเปิดการเจรจา และฝั่งเยอรมันได้มีการเข้าไปพูดคุยทั้งฝั่งยูเครนและรัสเซีย ทำให้ภาพดัชนีหุ้นรีบาวนด์ขึ้นมาได้ส่วนหนึ่ง

และจากผลการประชุม ครม.ผ่านการพิจารณาแพคเกจอีวี และลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ส่งผลให้หุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีการรีบาวนด์กลับส่วนหนึ่งด้วย เช่นเดียวกันหุ้นพลังงานและสาธารณูปโภคอย่าง EA, GPSC เข้ามาช่วยหนุนตลาด

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนเข้าไปสะสมได้ ไม่ว่าจะเป็น EA, GPSC, OR ราคาหุ้นค่อนข้างลงมาลึก ราคาจะขยับไปต่อได้ ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองเชิงบวกมากเท่าไร

ฟันด์โฟลว์ทะลักเดือน ก.พ.65 สูงสุดในรอบ 17 ปี

ขณะที่หุ้นไทยยังน่าสนใจในมุมมองนักลงทุนต่างชาติ โดยซื้อหุ้นไทยมาต่อเนื่อง ตลอดในเดือน ก.พ.65 พบว่าต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยรวมแล้วกว่า 47,323 ล้านบาท(1-14 ก.พ.65) ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 17 ปี (นับรายเดือนเฉพา ก.พ.ของทุกปี) และสูงสุดเป็นอันดับ 3 ตั้งแต่เก็บข้อมูลกว่า 30 ปี

โดยต้นทุนเฉลี่ยเดือน ก.พ.65 อยู่บริเวณ 1,692 จุด ดังนั้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ SET Index ปรับตัวต่ำกว่าต้นทุนเฉลี่ย ทำให้ดัชนีมีโอกาสดีดกลับได้

“ฟันด์โฟลว์เข้ามาเต็มที่ ซึ่งเหตุผลที่เข้ามาเพราะดอกเบี้ยไทยไม่ขึ้น กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตดีกว่าประเทศพัฒนาแล้ว และเศรษฐกิจฟื้นตัวได้เด่นกว่าต่อเนื่อง 2 ปี (65-66)”