คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : สาโรจน์ มณีรัตน์
ไม่กี่วันก่อนพาตัวเองไปหาความรู้แถวเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เนื่องจากทางสำนักงานความร่วมมือพัฒนาศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) หรือ NEDA ส่งเทียบเชิญมาเพื่อพาไปดู โครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรหนองเอี่ยน-สตึงบท และถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5
บ้านหนองเอี่ยนอยู่ในเขตอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว แต่สตึงบทอยู่ในตำบลปอยเปต อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ปัจจุบันฝั่งไทยยังสร้างจุดผ่านแดนไม่เสร็จ เนื่องจากมีการเปลี่ยนผู้รับเหมา คาดว่าน่าจะเสร็จประมาณปี 2568 ส่วนจุดผ่านแดนสตึงบทเสร็จเรียบร้อยแล้ว เปิดให้บริการรถขนส่งสินค้าจากไทยไปกัมพูชาแล้ว
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จุลพันธ์ แจงใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชนได้
ปัจจุบันมีรถขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่านแดนแห่งนี้ประมาณ 150-300 คัน/วัน และคาดว่าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นเป็น 600 คัน/วัน โดยมีทาง NEDAให้เงินกู้ยืมกับรัฐบาลกัมพูชาประมาณ 928.00 ล้านบาท มิหนำซ้ำ ยังมีตัวเลขมูลค่าสินค้าชายแดนโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านกว่าบาท
ถามว่าประเทศไทยเสียโอกาสไหม ?
ยิ่งกว่าเสียอีก เพราะดั่งที่ทุกคนทราบดีว่าด่านเก่า หรือจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก-ปอยเปต อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วคลาคล่ำไปด้วยผู้คนเดินเข้าเดินออกระหว่างไทย-กัมพูชาปีละเป็นล้าน ๆ คน ทั้งยังมีรถขนส่งสินค้าจำนวนมากที่เดินทางเข้าออกเพื่อไปส่งสินค้าเข้าประเทศกัมพูชา ต่อเนื่องไปยังเวียดนามอีกหลายร้อยคัน/วัน ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่ตัวเลขมูลค่าสินค้าชายแดนโดยรวมจะมีมากกว่า 1 แสนล้านบาท
ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างด่านใหม่ขึ้นมา เพื่อแยกออกจากผู้คนที่เดินทางเข้าออก เพื่อให้เหลือเฉพาะรถขนส่งสินค้าอย่างเดียว ดังนั้น การที่จุดผ่านแดนบ้านหนองเอี่ยนยังสร้างไม่เสร็จ จึงเท่ากับว่าเราเสียเม็ดเงินจากการเก็บค่าผ่านด่านจากไทยไปยังด่านสตึงบททุกวัน
วันละเท่าไหร่ผมไม่ทราบได้ แต่ที่แน่ ๆ สินค้าส่งออกของไทยที่ผ่านจุดผ่านแดนถาวรเดิมบ้านคลองลึก-ปอยเปต เพื่อไปยังกัมพูชานั้น นอกจากจะมีรถยนต์เป็นอันดับหนึ่ง หากรอง ๆ ลงมายังเป็นเครื่องดื่ม, อะไหล่รถจักรยานยนต์, รถใช้ในการเกษตร, ปุ๋ยยูเรีย, เครื่องเกี่ยวนวดข้าว และผ้าอ้อม, ผ้าอนามัย ขณะที่สินค้านำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นเลนส์แว่นตา, เศษอะลูมิเนียม, อะไหล่รถยนต์, ส่วนประกอบมอเตอร์, เศษทองแดง ทองเหลือง เป็นต้น
ดังนั้น ถ้าจุดผ่านแดนถาวรหนองเอี่ยน-สตึงบทเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์ ก็เชื่อแน่ว่าความคึกคักทางการค้า การลงทุน และการส่งออก-นำเข้าก็จะมากขึ้นเป็นทวีคูณ ที่สำคัญ ก็จะทำให้เศรษฐกิจระดับภูมิภาคทั้ง 2 ประเทศ และอีกหลายประเทศในแถบอาเซียนเกิดการแลกเปลี่ยนสินค้ากันไปมามากขึ้นด้วย
ผมไปดู และไปรับทราบข้อมูลทั้งจากฝั่งไทย และกัมพูชาก็ต่างประจักษ์ชัดว่าสิ่งที่จะได้มากกว่ามูลค่าตัวเลขโดยรวมของสินค้าชายแดนคือเศรษฐกิจระหว่างชุมชนของทั้ง 2 ประเทศก็จะคึกคักตามไปด้วย เพราะดั่งที่ทุกคนทราบดีเศรษฐกิจของประเทศจะประสบความสำเร็จมากหรือน้อย จะต้องมีดัชนีชี้วัดจากเศรษฐกิจชุมชนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
เพราะเศรษฐกิจชุมชนเป็นฐานรากของเศรษฐกิจประเทศที่จะชี้ชัดว่า “ผู้ปกครอง” บริหารประเทศสำเร็จหรือไม่
ผมคิดอย่างนั้นจริง ๆ นะ
ไม่รู้คุณคิดเหมือนผมหรือเปล่า