สงกรานต์ 21 วัน ไม่ช่วยอะไร จับตา “โลว์ซีซั่น” ร่วงหนัก ?

airport
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : ณัฏฐ์พิชญ์ วงษ์สง่า
[email protected]

จากตัวเลขของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 12.12 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 85% ของปี 2562 ก่อนโควิด ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวช่วง เดียวกันอยู่ที่ 14 ล้านคน

หากมอนิเตอร์ตัวเลขรายเดือนเทียบกับปี 2562 จะพบตัวเลขนักท่องเที่ยวของปี 2567 ยังต่ำกว่าฐานของปี 2562

โดยเดือนมกราคมฟื้นตัวกลับมาประมาณ 81% กุมภาพันธ์เดือนแห่งการเดินทางในช่วงเทศกาลตรุษจีน ฟื้นตัวกลับมาได้ 93% เดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของการเปิดวีซ่าฟรีถาวรระหว่างไทยและจีน จำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัว 85.7%

และเดือนเมษายนซึ่งปีนี้รัฐบาลมีนโยบายดันให้สงกรานต์เป็นบิ๊กอีเวนต์ และจัดต่อเนื่องยาวเหยียดถึง 21 วัน ก็ยังพบว่าฟื้นกลับมาได้เพียง 85.7%

เช่นเดียวกับในส่วนของรายได้ที่พบว่า ช่วง 4 เดือนแรกปี 2567 ท่องเที่ยวทำรายได้ที่ 583,902 ล้านบาท ฟื้นตัวกลับมาได้ที่ประมาณ 88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีรายได้ 661,886 ล้านบาท

Advertisment

ตัวเลขดังกล่าวนี้ หลายคนมองว่า อยู่ในระดับที่น่าพอใจแล้ว

ขณะที่อีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนมากบอกว่า ถ้าวิเคราะห์จากปัจจัยบวกที่รัฐบาลนายกฯเศรษฐาอัดเข้ามา โดยเฉพาะนโยบายวีซ่าฟรีให้จีน ตัวเลขควรขึ้นแบบก้าวกระโดด

แถมวิเคราะห์ด้วยว่า ปรากฏการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ ในเชิงนโยบายเราอาจได้ไม่คุ้มเสียหรือเปล่า

เพราะวีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน ที่ไม่ได้ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกัน กลับพบว่าคนไทยแห่ออกไปเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน มากจนคนจีนที่จะเข้ามาไม่สามารถจองที่นั่งสายการบินได้มากนัก

Advertisment

เช่นเดียวกับเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่รัฐบาลอัดงบฯมหาศาลจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ทั้งที่ถนนราชดำเนิน และในต่างจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อผลักดันให้เทศกาลสงกรานต์เป็น “World Event” และจัดยาวถึง 21 วัน

ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไม่ได้เข้ามาเพิ่มชัดเจนนัก มีเพียงแค่วันที่ 11-13 เมษายนเท่านั้นที่มีตัวเลขเกินวันละ 100,000 คน

หลังจากนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวก็ตกท้องช้างมาอยู่ในระดับ 70,000-80,000 คนต่อวันมาตลอด

บางวันตกมาอยู่ในระดับ 60,000 กว่า ๆ ด้วยซ้ำ

ต่ำจนหลายคนเป็นห่วงว่าในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ซึ่งเป็น “โลว์ซีซั่น” ปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติจะหายไปมากกว่าปกติ

โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนที่จะถึงนี้ เนื่องจากจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นออกมา

ที่สำคัญ นายกฯเศรษฐายังทำการสลับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กับกระทรวงวัฒนธรรม ท่ามกลางกระแสการขับเคลื่อนนโยบาย Ignite Thailand

คงต้องลุ้นอย่างหนักว่า การเปลี่ยนม้ากลางศึกครั้งนี้ จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ถึง 35 ล้านคน และมีรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท ได้ตามเป้าได้อย่างไร…