แก้ปม ศก.โจทย์ท้าทาย ครม.ใหม่

บทบรรณาธิการ

แม้ยังไม่มีการประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นทางการ แต่การจัดสรรเก้าอี้ทุกตำแหน่งลงตัว ทำให้สาธารณชนได้เห็นโฉมหน้ารัฐบาล “ประยุทธ์ 2” ที่ถึงช่วงนับถอยหลังเข้ารับไม้ต่อบริหารประเทศจากรัฐบาล คสช. จากนี้ไปไม่นาน

รายชื่อ ครม.ใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นไปตามโผที่ออกมาล่าสุด แม้จะมีเสียงสะท้อนทั้งขานรับกับวิพากษ์วิจารณ์ในทางตรงข้าม แต่สำหรับนักธุรกิจ นักลงทุนส่วนใหญ่มองในมุมบวก เนื่องจากทิศทางการเมืองจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันก็ทำให้นานาประเทศได้รับรู้ว่า การจัดตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้งของไทยที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 3 เดือน นับแต่วันเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม 2562 เสร็จสมบูรณ์ และกำลังจะเข้าทำหน้าที่

เพราะช่วงรอยต่อการเมืองปรับเปลี่ยนอย่างเวลานี้ แม้รัฐบาลชุดปัจจุบันยังมีอำนาจเต็มในการปกครองประเทศ แต่ในทางปฏิบัติภารกิจสำคัญหลากหลายเรื่องสะดุดหยุดนิ่ง รอรัฐบาลใหม่มาริเริ่ม สะสาง การบริหารราชการเกิดสภาพสุญญากาศ เดินหน้าได้ไม่เต็มที่

เช่นเดียวกับ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่ล่าช้าออกไป 4 เดือน จากปีปกติจะประกาศบังคับใช้ก่อนวันที่ 1 ตุลาคมทุกปี กระทบต่อเนื่องถึงความเชื่อมั่นในการบริโภค การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ขณะที่ ปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กับผลกระทบจากสงครามทางการค้า กำลังเป็นอุปสรรคทำให้รายได้แหล่งใหญ่จากภาคการส่งออก และการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวลดน้อยลง โอกาสที่ตัวเลขรายได้ ยอดขาย ยอดนักท่องเที่ยวจะเข้าเป้าคงยาก

สัญญาณอันตรายเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะยิ่งเหนื่อยหนัก เหมือนที่นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์ พร้อมปรับลดตัวเลขประมาณการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลงหรือไม่ จึงอยู่ที่ฝีมือความสามารถของรัฐบาลเรือเหล็กที่มาแทนเรือแป๊ะ ว่าจะปลุกความเชื่อมั่น กำลังซื้อ และการลงทุนให้ฟื้นคืนกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน

ท่ามกลางเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยปัจจัยลบภายในภายนอก หลายเรื่องเป็นปัญหาเฉพาะหน้าต้องเร่งแก้ หลายเรื่องส่งผลกระทบในวงกว้างและเกี่ยวโยงหลายหน่วยงาน จึงต้องอาศัยการบูรณาการทำงาน และความเป็นเอกภาพของหน่วยงานรัฐ รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาล 19 พรรคมากกว่าสถานการณ์ปกติ


การแก้เกมเศรษฐกิจ พลิกวิกฤตเป็นโอกาสพิสูจน์ฝีมือ สร้างผลงาน แม้จะยากและท้าทายยิ่งกว่าการแก้เกมทางการเมือง ก็ต้องมุ่งมั่นและทำให้สัมฤทธิผล สมกับที่แย่งกันขันอาสาเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประเทศ