สมาธิกับหลวงพ่อวิริยังค์ คลายปม “ธุรกิจ”

คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ

โดย กฤษณา ไพฑูรย์

 

ตอนนี้หันไปทางไหนได้ยินแต่คนบ่นว่า “ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่” ตั้งแต่ระดับคนรากหญ้า แม่ค้าขายข้าวแกง คนขับแท็กซี่ ยันมหาเศรษฐีเจ้าของกิจการระดับร้อยล้าน พันล้าน หลายบริษัทลดวันทำงาน ลดเงินเดือน เพราะยอดขายสินค้าลด จนหลายคนกังวลว่า ปลายปีนี้อาจมีสิทธิ์เห็นล้ม คนตกงานเพิ่มขึ้น

หลายคนเริ่มสะสม “ความเครียด” และหาทางออกด้วยการ “คิดสั้น”

วันนี้จึงอยากแนะนำให้ชาวพุทธทั้งหลายมา “ไหว้พระสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-ทำวัตรเย็น นั่งสมาธิกัน”

บางคนอาจจะถามว่า การสวดมนต์ นั่งสมาธิแล้ว จะทำให้ผลประกอบการธุรกิจดีขึ้นทันตาหรืออย่างไร ?

ขอกล่าวอ้างถึงคำสอนของ พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ซึ่งเป็นลูกศิษย์องค์สุดท้ายของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และผู้ก่อตั้ง “สถาบันพลังจิตตานุภาพ” ที่เปิดสอน “หลักสูตรครูสมาธิ”เผยแพร่ให้แก่คนทั่วโลกมีสาขาในประเทศไทย 267 สาขา และสาขาในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา

พระอาจารย์หลวงพ่อบอกว่า ประโยชน์ของสมาธิมี 12 ประการ เช่น ทำให้หลับสบายคลายกังวล, กำจัดโรคภัยไข้เจ็บ, ทำให้สมอง ปัญญาดี, ทำให้มีความรอบคอบในการทำงาน, ทำให้ระงับความร้ายกาจ, บรรเทาความเครียด, มีความสุขพิเศษ, ทำให้จิตอ่อนโยน, กลับใจได้, เวลาจะสิ้นลม พบทางดี, เจริญวาสนาบารมี และเป็นกุศล

ปัจจุบันหลวงพ่อวิริยังค์มีอายุ 99 ปี และจะครบ 100 ปีในอีกไม่กี่เดือนนี้ แต่หลักสูตรและวิธีการสอนวิชาสมาธิของหลวงพ่อทันสมัย เป็นสมาธิไฮเทค

หลวงพ่อสอนวิธีการง่าย ๆ สำหรับคนที่สนใจเริ่มต้นหัดนั่งสมาธิ หรือเคยเบื่อหน่ายกับการหลับตาเป็นเวลานาน โดยบอกว่า เมื่อเรากินข้าว 3 มื้อ หลังกินข้าว ให้แบ่งเวลามานั่งสมาธิ โดยทำจิตใจให้สงบ ไม่คิดเรื่องใด ๆ สัก 5 นาที

ด้วยการวางจิตไว้ใน 3 ตำแหน่ง เลือกเอาที่แต่ละคนจะถนัด คือ 1.บริเวณหน้าผาก 2.หัวอกเบื้องซ้าย และ 3.สะดือ พร้อมกับบริกรรมคำว่า “พุทโธ” เพื่อดึงจิตที่คิดเรื่องต่าง ๆ นานาที่เครียดอยู่ทั้งหลายให้หยุดลง วางลงเฉย ๆ ไม่คิดอะไรเลย รวม 3 เวลา เท่ากับวันนี้เรานั่งสมาธิไปแล้ว 15 นาที และแถมก่อนนอนด้วยก็ได้ แต่รวมแล้วเต็มที่หลวงพ่อไม่ให้นั่งสมาธิเกิน 30 นาที โดยก่อนนั่งสมาธิอาจเดินจงกรมสัก 30 นาที เพื่อสลัดความฟุ้งซ่านออกจากจิตใจ

หากใครสนใจฝึกปฏิบัติอย่างจริงจังก็ไปสมัครเรียน “หลักสูตรครูสมาธิ” กับสถาบันพลังจิตตานุภาพใกล้บ้านได้ทั้งวันธรรมดา หรือเรียนเฉพาะวันเสาร์

แต่ขอบอกว่า อย่าเพิ่งตกใจ ! เหมือนผู้เขียนตอนแรกที่ได้ยินว่า หลักสูตรครูสมาธิใช้เวลาเรียนถึง 6 เดือน หรือ 200 ชั่วโมงเชียวพอได้เข้าไปเรียนแล้วจึงรู้ว่า จริง ๆ แล้วในชั่วโมงการสอนทุกวัน จะแบ่งเวลาให้เรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยช่วงแรกจะมีครู ซึ่งมีทั้งฆราวาสและพระสงฆ์ผลัดกันมาถ่ายทอดหลักสูตร พร้อมกับมีการเปิดเทปเสียงของหลวงพ่อให้ฟัง หลังจากนั้นให้มีการปฏิบัติเดินจงกรม นั่งสมาธิกันอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อจบหลักสูตรมีการสอบภาคทฤษฎีให้เขียนตอบ ภาคปฏิบัติให้เดินจงกรม นั่งสมาธิ รวมถึงการสอบในขั้นสุดท้ายให้เดินธุดงค์ลงพื้นที่ในต่างจังหวัด

ซึ่งคล้ายกับการกลับเข้าห้องเรียนหนังสืออีกครั้ง จริง ๆ แล้ววัตถุประสงค์ของหลักสูตรครูสมาธิ เหมือนกลอุบายของหลวงพ่อ ต้องการให้ทุกคนเรียนและปฏิบัติอย่างต่อเนื่องให้ได้เห็นผลจากการปฏิบัติเกิดขึ้นกับตัวเอง หรือ “สอนตัวเอง” ให้ได้ผลก่อน จะไปสอนคนอื่นต่อ

ตัวผู้เขียนเองได้ยินเรื่องหลักสูตรครูสมาธิมานานกว่าจะตัดสินใจไปเรียนก็ในช่วงภาวะที่เศร้าที่สุดในชีวิตตอนที่แม่จากไป การไปเรียนหลักสูตรครูสมาธิเห็นผลชัดเจนเมื่อสามารถคลายความเศร้าหมองในจิตใจได้รวดเร็ว นอนหลับง่าย ลดความเครียดจากการทำงานภายใต้ภาวะความกดดันต่าง ๆ ได้ ปล่อยวางกับสิ่งต่าง ๆ รอบข้างได้มากขึ้น ทำให้มีสติในการทำงาน ตัดสินใจต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ที่สำคัญสามารถควบคุมภาวะอารมณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น แม้จะยัง รัก โลภ โกรธ หลงอยู่เช่นเดิม แต่รู้เท่าทันอารมณ์มากขึ้น

จึงอยากให้ทุกคนที่กำลังเครียดกับปัญหาหลากหลายลองมาไหว้พระสวดมนต์ ก่อนเดินจงกรม และนั่งสมาธิ แล้วจะเห็นว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่มีอยู่ มีหน “ทางออก” ที่ดีอย่างเกินคาดเสมอ ดังที่นักธุรกิจระดับประเทศมากมายหลายคนล้วนมาเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ

หลวงพ่อเปิดสอนฟรีหลายหลักสูตร ไม่เสียเงิน เบื้องต้นจะลองเลือกหลักสูตรระยะสั้น 1 วัน ก็มีสอน ลองไปเรียนกันได้ หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.willpowerinstitute.com