3 สารพิษแก้ปัญหาแค่หน้าตัก

บทบรรณาธิการ

การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย วันที่ 27 พ.ย. 2562 ถูกจับตามองว่า ที่ประชุมจะทบทวนมติเดิมเมื่อ 22 พ.ย. 2562 ที่ให้แบน 3 สาร ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2562 หรือจะมีมติให้ยืดระยะเวลาการแบน 3 สารดังกล่าวออกไปอีก

เพราะหลังสารกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิดนี้ถูกแบน นอกจากกลุ่มที่สนับสนุนและคัดค้านจะยังเคลื่อนไหวต่อเนื่องแล้ว ผลกระทบยังเกิดขึ้นในวงกว้างกับเกษตรกร ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบธุรกิจสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ร้านค้าสารเคมีการเกษตร ธุรกิจอาหารคน อาหารสัตว์ โดยภาครัฐยังไม่มีทางออกให้

ขณะที่สหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บราซิล ฯลฯ ทำหนังสือถึงไทย ขอความชัดเจนถึงเหตุผลในการแบนสารเหล่านี้ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

เพราะเกรงว่ากฎระเบียบใหม่ที่เข้มงวดมากขึ้น จะปิดล็อกพืชผลทางการเกษตรจาก 5 ประเทศ ซึ่งเสี่ยงปนเปื้อนสารต้องห้ามไม่สามารถจะนำเข้ามาประเทศไทยได้ เพราะจากนี้ไปพืชผล วัตถุดิบที่นำเข้าจะต้องปลอดสารพิษ 100%

Advertisment

ขณะเดียวกันจากที่ 3 สาร ซึ่งเดิมจัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ถูกปรับเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามมิให้มีการผลิต นำเข้า ส่งออก นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครอง ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2562 ทำให้เกษตรกร ผู้ประกอบการสารเคมีอันตราย ร้านค้ายากำจัดศัตรูพืช ต้องแจ้งปริมาณการครอบครอง และส่งมอบสารทั้ง 3 ชนิดให้ภาครัฐ ตามเงื่อนไขที่กรมวิชาการเกษตรออกประกาศ

ก่อนถึงเดดไลน์ 1 ธ.ค. นอกจากความโกลาหลจะเกิดขึ้นทั้งกับเกษตรกร กับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องแล้ว ยังเห็นชัดเจนว่าหน่วยงานรัฐอย่างกระทรวงเกษตรฯ อุตสาหกรรม สาธารณสุข ขาดความเป็นเอกภาพ และบูรณาการ แต่ละหน่วยงานมุ่งแก้ปัญหาเพียงแค่หน้าตัก

การประชุมบอร์ดวัตถุอันตราย 27 พ.ย. ท่ามกลางแรงกดดันจาก 686 องค์กรเครือข่ายสนับสนุนการแบน 3 สารพิษ กับ 7 สมาคมที่คัดค้าน จึงต้องรอลุ้นว่าข้อเสนอกรมวิชาการเกษตรที่ให้เลื่อนบังคับใช้กฎหมายไปอีก 6 เดือน จะถูกชี้ขาดอย่างไร

เป็นอีกหนึ่งบทเรียนความผิดพลาดในการทำงาน การบริหารจัดการนโยบาย ที่คิดและตัดสินใจโดยไม่นำข้อมูล ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาให้ถี่ถ้วน รอบด้าน นำมาซึ่งปัญหายากจะแก้ แต่หนักสุดคือเกษตรกรที่เวลานี้เหมือนโดนปล่อยเกาะ

Advertisment

เจตนาดีรัฐที่ต้องการคุมเข้มสารพิษปนเปื้อนในพืชผล อาหาร จึงถูกมองตรงกันข้าม แถมตั้งข้อสังเกตว่ามีการเมือง ผลประโยชน์แอบแฝง รวบรัดทั้งที่ยังไม่มีทางเลือก ทางออกให้กลุ่มที่ได้รับผลกระทบ

คลิกอ่านข่าวเพิ่มเติม… เลื่อนแบน “พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส” 6 เดือน 1 มิ.ย.63 ต้องหมด “ไกลโฟเซต” รอด