คอลัมน์

คิดแบบผู้นำ

คอลัมน์สามัญสำนึก
ดิษนีย์ นาคเจริญ

หลายคนมองว่าอุตสาหกรรมสื่อสารไม่น่าได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 แต่ที่จริงโดนกับเขาเหมือนกัน แม้การใช้งานจะเพิ่มขึ้น แต่การปิดประเทศทำให้รายได้จากการใช้บริการของนักท่องเที่ยวหายวับ ขณะที่สินค้าไม่สามารถส่งไปถึงมือผู้บริโภคได้ช่วงล็อกดาวน์ธุรกิจหยุดเชื้อ เพื่อชาติ ซ้ำเติมด้วยสภาวะเศรษฐกิจ และมาตรการ กสทช.ที่ให้ใช้อินเทอร์เน็ตฟรี 10 GB โทร.ฟรี 100 นาที ส่งผลต่อภาพรวมของธุรกิจทั้งสิ้น แต่เทียบอุตสาหกรรมอื่นยังถือว่าโชคดีกว่า

“สมชัย เลิศสุธิวงค์” ซีอีโอ “เอไอเอส” บอกว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมสื่อสารเติบโตกว่า “จีดีพี”  แต่ปีนี้ ไตรมาสแรกเทียบปีที่แล้ว แม้ยอดการใช้งานจะสูงขึ้นถึง 20% แต่รายได้ในภาพรวมตกลง แต่ที่สุดแล้วยังเชื่่อว่าจะตกน้อยกว่า “จีดีพี” เช่น ถ้าจีดีพีตก 6-7% ธุรกิจสื่อสารจะตกน้อยกว่า 2-3%

ในความโชคร้ายมีโชคดี “โควิด-19” ช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความมีน้ำใจของคนไทย พร้อมกับผลักดันให้ธุรกิจต่าง ๆ และผู้บริโภคใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี “ดิจิทัล” ที่พูดกันมานานอย่างเต็มที่

“ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือไม่จำเป็นอีกต่อไป

เมื่อทุกสิ่งเปลี่ยน การทำธุรกิจจำเป็นต้องมี new business model เช่นกัน

โลกเปลี่ยนไปแล้ว ถ้ายังทำเหมือนเดิม อยู่กันแบบเดิม จะรอดและเติบโตได้อย่างไร

ทำให้นึกถึงคำพูดของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) ที่เคยบอกว่า ในช่วงวิกฤตต้องใช้ “วิธีวิกฤต” เหมือนเมื่อครั้งวิกฤตต้มยำกุ้ง ที่ต้องตัดสินใจขาย “โลตัสและแม็คโคร” ซึ่งถือป็นลูกรักไป

“ยอมตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต” เพราะต้องทำตัวให้รอดก่อน จึงมีโอกาสแก้ตัวในภายหลังกลับมาซื้อคืนได้นั่นแหละ

แม่ทัพ “เอไอเอส” บอกว่า ถ้าจะพลิกฟื้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สำเร็จได้ รัฐบาล, เอกชน และประชาชน ต้องประสานความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งและจริงจัง

และ “เอไอเอส” ในบทบาทของภาคเอกชนจึงลุกขึ้นมาประกาศวิสัยทัศน์ AIS 5G-Forging Thailand’s Recovery ย้ำชัดเจนว่า จะเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง เฉพาะในปีนี้ 35,000-45,0000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทย ด้วยการร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ นำเทคโนโลยี AIS 5G มาฟื้นฟูประเทศอย่างจริงจัง

ตอกย้ำหมุดหมายในการมุ่งไปยัง “ดิจิทัลไลฟ์ เซอร์วิส โพรไวเดอร์” ที่ประกาศไว้เมื่อ 5 ปีก่อน พร้อมกัน

ทำไมต้อง 5G ก็เพราะเทียบประเทศอื่นแล้ว เราไม่แพ้ใครในโลก ต่างจากยุค 3G ที่ช้ากว่าคนอื่น 10 ปี หรือยุค 4G ที่ช้ากว่า 5 ปี

“เอไอเอส” เพิ่งประมูลคลื่น 5G มาได้ เฉพาะค่าคลื่นใช้เงินกว่า 2 แสนล้านบาทก่อนวิกฤตโควิด-19 ไม่เท่าไร ทำให้มีคลื่นมากสุดในประเทศไทย และเกือบมากที่สุดในโลก

เมื่อหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจพร้อม การเงินไม่มีปัญหา จึงตั้งใจนำความแข็งแรงมาเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เติบโต และว่าโครงสร้างพื้นฐานด้าน “ดิจิทัล” เปรียบได้กับเส้นเลือดใหม่ของธุรกิจที่สามารถดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในได้ด้วย

“สมชัย” ย้ำว่า ไทยไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่ได้รับผล กระทบจึงต้องแข่งขัน ถ้ารู้จักใช้ประโยชน์จะเป็นโอกาสทองสำหรับประเทศเล็กที่จะแข่งขันได้ เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้บริษัทเล็กชนะบริษัทใหญ่ ทำให้ประเทศเล็กชนะประเทศใหญ่ได้

“เราตั้งใจทำดิจิทัลแพลตฟอร์มให้คนไทยใช้ และได้ประโยชน์ โดยร่วมกับพาร์ตเนอร์สร้างอีโคซิสเต็มที่แข็งแรงเพื่อให้โตไปพร้อมกัน ทำให้ดิจิทัลแพลตฟอร์มนำเสนอสินค้าของพาร์ตเนอร์ไปสู่ลูกค้า ซึ่งจะเป็นจริงได้ต้อง 1.ภาครัฐต้องสนับสนุนไม่ใช่กำกับ และควบคุม เน้นรายได้ 2.เอกชนต้องร่วมมือกัน ทุกคนอยากร่วมแต่ยังไม่เข้มแข็งจริงจัง และ 3.ประชาชน”

โควิด-19 เป็นบทเรียนสำคัญของคนไทย และทั่วโลกว่า ท่ามกลางวิกฤตยังมีโอกาสอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะฉกฉวยโอกาสนั้นอย่างไร