เลือก อบจ.ให้ตอบโจทย์คนในท้องถิ่น

บทบรรณาธิการ

อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) กับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไว้วันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. 2563 ถือเป็นการเลือกตั้งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี ก่อนถึงคิวเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกสภาเมืองพัทยา ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) สมาชิกสภา กทม. และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.)

แม้ไม่ใช่การเลือกตั้งในระดับประเทศ แต่การเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นมีความสำคัญและมีความหมาย นอกจากสื่อให้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ระดับชุมชนท้องถิ่นแล้ว การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองด้วยการเลือกตั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติในท้องถิ่น จะมีส่วนในการกำหนดนโยบายทิศทางในการพัฒนา ตลอดจนสามารถควบคุมตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมืองในแต่ละพื้นที่

หลายคนอาจมองบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ว่าไม่คึกคักเท่าการเลือกตั้งระดับชาติ แต่หลายพื้นที่มีการนำเสนอนโยบาย ผลงาน สร้างคะแนนนิยมเฉือนคู่แข่ง ไม่น้อยหน้าการเลือกตั้ง ส.ส. แม้จะมีข้อจำกัดด้านระเบียบกฎหมาย การป้องกันด้านสุขภาพอนามัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่บ้าง

โค้งสุดท้ายช่วงนับถอยหลังก่อนวันเลือกตั้งอีกสัปดาห์เศษจึงน่าจับตามองว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศจะไปใช้สิทธิลงคะแนน เลือกตัวแทนของตนนั่งบริหาร อบจ.และทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติในสภา อบจ.มากน้อยเพียงใด เพราะท้องถิ่นเปรียบเสมือนโรงเรียนฝึกสอนประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้เรียนรู้ทั้งสิทธิ หน้าที่

หากการเมืองท้องถิ่นซึ่งเป็นฐานรากของประเทศเข้มแข็ง จะส่งผลต่อเนื่องให้การเมืองการปกครองในระดับประเทศเข้มแข็งและหยั่งรากลึก ประชาชนจะเห็นคุณค่าของความเป็นประชาธิปไตย ต้องการมีสิทธิมีเสียง มีส่วนร่วมในการปกครอง การบริหารงานของท้องถิ่น รวมทั้งการบริหารจัดการประเทศ โดยผ่านตัวแทนที่มาจากการเลือกตั้ง

วันเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ปฐมฤกษ์การเลือกตั้งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรอบใหม่ 20 ธ.ค.นี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้ง 76 จังหวัดจึงควรพร้อมใจกันไปออกเสียงลงคะแนน ใช้ดุลพินิจเลือกคนดีมีฝีมือ คนซื่อสัตย์สุจริตเป็นตัวแทนเข้าไปนั่งบริหารท้องถิ่น ต่อต้านผู้รับสมัครที่ซื้อสิทธิซื้อเสียงหรือโกงกิน


ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่โลกปรับเปลี่ยนรวดเร็ว อุบัติภัยทางธรรมชาติ โรคอุบัติใหม่ ทำให้ความไม่แน่นอนมีเพิ่มขึ้น ผู้นำท้องถิ่นที่มีวิสัยทัศน์ ทุ่มเททำงาน น่าจะเป็นตัวเลือกในการนำพาท้องถิ่นไปข้างหน้า พัฒนาความเจริญ หนุนเศรษฐกิจในพื้นที่ สนองตอบความต้องการคนในท้องถิ่นได้ตรงจุด