2565 โหมดเตรียมเลือกตั้ง พรรคการเมือง ประชันนโยบายเข้าสู่อำนาจ

2565 โหมดเตรียมเลือกตั้ง พรรคการเมือง ประชันนโยบายเข้าสู่อำนาจ
ชั้น 5 ประชาชาติ
ณัฐวุฒิ ประชาชาติ

เปิดศักราช 2565 ด้วยการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

เป็นความท้าทายครั้งล่าสุดของรัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้บัญชาการ

เพราะในปี 2564 รัฐนาวาประยุทธ์ซวนเซด้วยพิษโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ตั้งแต่ช่วงเมษายนยอดติดเชื้อทะลุวันละ 2 หมื่น คนป่วยล้นระบบสาธารณสุข กว่าจะเบาบางก็เลยไปถึงช่วงท้ายปี

การรับมือสายพันธุ์โอไมครอนจึงเป็นอีกบทพิสูจน์ของการรับมือของรัฐบาลในช่วงที่เศรษฐกิจปากท้องของประชาชนเดือดร้อนเต็มที ครั้นรัฐบาลจะล็อกดาวน์ระงับการระบาดก็ต้องกล้ำกลืนไม่สามารถทำได้เหมือนแต่ก่อน

เคราะห์ยังดีที่หลายงานวิจัยออกมาบอกว่าสายพันธุ์โอไมครอนไม่รุนแรงเหมือนสายพันธุ์เดลต้า เป็นเพียงไข้หวัด อัตราการเสียชีวิตก็ยังน้อยกว่าหลายเท่า และโอไมครอนอาจกลายเป็น “พระเอก” ในบั้นปลาย ทำให้โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น

ถ้า พล.อ.ประยุทธ์เอาอยู่-คุมอยู่ คะแนนนิยมของรัฐบาลในช่วงสุดท้ายก่อนเลือกตั้งครบวาระปี 2566 อาจไม่ติดลบมากนัก

ทว่า ในจังหวะที่การเมืองเข้าสู่ช่วงปีสุดท้ายก่อนเข้าป้ายเลือกตั้ง กิจกรรมการเมืองในปี 2565 ย่อมคึกคักมากเป็นพิเศษ

ฟากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์พยายามคุมสถานการณ์การเมืองให้นิ่งเพื่อไปให้ถึงฝั่ง อย่างน้อยต้องผ่านการประชุมเอเปกจนจบในเดือนพฤศจิกายน อย่างน้อยต้องผ่านกฎหมายงบประมาณปี 2566 และอย่างน้อยต้องโยกย้ายกำลังข้าราชการเพื่อให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง

ในขณะเดียวกัน โครงการ “ประชานิยม” ฉบับประยุทธ์เดินหน้าต่อเนื่องทั้งเติมเงินเข้าสู่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ผู้มีรายได้น้อยเข็นโครงการคนละครึ่ง เฟส 4

พล.อ.ประยุทธ์กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอบคุณหน่วยงานราชการที่เข็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน อาทิ การลดค่าไฟ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ทัวร์เที่ยวไทย ช่วยขับเคลื่อนทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2565 นี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกส่วนราชการดำเนินการเดินหน้ากิจการ แผนงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องในปี 2565 ต่อไป

โกยแต้มปีสุดท้าย ปูทางสู่การอยู่ต่ออีกสมัย ? แม้ว่าในเดือนสิงหาคม 2565 จะต้องเผชิญความท้าทายที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ว่าเป็นนายกฯครบ 8 ปีแล้วหรือไม่ แต่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญนี้ไปได้

อย่างน้อยก็มีฝ่ายกฎหมายสภาผู้แทนราษฎรพิเคราะห์กฎหมายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์สามารถเป็นนายกฯได้ถึงปี 2570 !

อีก movement ในปี 2565 บรรดาพรรคการเมืองพรรคเก่า-พรรคใหม่ ไม่ว่าขั้วฝ่ายค้าน-รัฐบาล เตรียมคิกออฟนโยบายเพื่อมาแข่งขันในสมรภูมิเลือกตั้งปี 2566 หรืออาจเร็วกว่านั้นหาก พล.อ.ประยุทธ์ล้มกระดานยุบสภากะทันหัน

ตัวอย่างเช่น การกลับมาของ 2 กุมาร นายอุตตม สาวนายน และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่มีกุนซือใหญ่ชื่อ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เตรียมคิกออฟเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย แม้ตามกำหนดเดิมจะเปิดตัวสู่สาธารณะวันที่ 3 มกราคม 2565 แต่โดนคั่นจังหวะด้วยโอไมครอนจึงต้องขยับวันออกไป

พรรคไทยสร้างไทย พรรคใหม่ของ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” เปิดทัวร์นกขมิ้น 77 จังหวัด รับฟังความคิดเห็นประชาชน ประกาศแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนใครเพื่อน เช่น จัดตั้งกองทุน SMEs เพื่อให้ SMEs โดยเฉพาะ micro SMEs ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำได้ รวมทั้งการจัดตั้งกองทุน startup

“กองทุนเพื่อคนตัวเล็ก” หรือกองทุนเครดิตประชาชนที่จะช่วยเหลือให้คนตัวเล็กที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงเงินสินเชื่อในระบบปกติได้

ขณะที่ “พรรคกล้า” ของ กรณ์ จาติกวณิช เปิดน้ำจิ้มนโยบาย 5 เรื่อง เช่น 1.เปลี่ยนระบบราชการให้เป็นแบบ one click government 2.สังคมไร้เงินสด cashless society ลดต้นทุนทางการเงิน 3.การปฏิรูปหรือปรับโครงสร้างระบบราชการ 4.เชื่อมโยงข้อมูลแบบ one data และ open government 5.ผลักดันนวัตกรรมใหม่ให้เกิดด้วยโครงสร้าง ภาษี เงินทุน

ส่วนพรรคเก่าขาใหญ่ เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ ยังชุลมุนอยู่กับการเลือกตั้งซ่อม 3 เขตเลือกตั้ง ทั้งสงขลา-ชุมพร และ กทม.หลักสี่โหมโรงการเลือกตั้งซ่อมก่อนเปิดศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มี พรรคก้าวไกล เข้ามาเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ตามเกมช่วงต้นปีพรรคเก่ายังไม่ต้องรีบเปิดแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ แต่ส่งสัญญาณให้ ส.ส.ต่างลงพื้นที่หาคะแนนตุนใส่กระเป๋ากันแล้ว พร้อมทั้งเปิดรับ ส.ส.ย้ายขั้วย้ายข้างกันฝุ่นตลบ

ปี 2565 การเมืองจะขับเคี่ยวกันอย่างสนุก นับถอยหลังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ที่จะอยู่ครบวาระ หรือไปก่อนวาระอันควร