ไกด์เถื่อนระบาด เร่งกวดขันอาชีพสงวนคนไทย หลังนักท่องเที่ยวจีนเพิ่ม

นักท่องเที่ยวจีน

กระทรวงแรงงาน เตือนผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ห้ามใช้บริการ “ไกด์เถื่อน” สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยเท่านั้น หากฝ่าฝืนมีความผิดตามตามกฎหมาย

วันที่ 31 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ส่วนใหญ่เดินทางมาในรูปแบบของกรุ๊ปทัวร์ หรือผ่านบริษัทนำเที่ยว ทำให้มีผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจำนวนหนึ่งใช้บริการไกด์ หรือมัคคุเทศก์ชาวต่างชาติที่ลักลอบประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ในประเทศไทย

ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย เพราะอาชีพมัคคุเทศก์หรืองานจัดนำเที่ยวเป็นงานที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น และเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำโดยเด็ดขาด ซึ่งระบุไว้ในบัญชีท้ายประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อนำเงินตราเข้าประเทศ เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดคลี่คลาย ซึ่งหากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลือกจ้างไกด์ต่างชาติแทนคนไทย

นอกจากมีความผิดตามกฎหมายแล้ว ยังทำให้เกิดการแย่งอาชีพคนไทย ซึ่งกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพราะรายได้หลักทางหนึ่งของไทยมาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทางอ้อม

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าว นายจ้าง สถานประกอบการ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะกลุ่มคนต่างด้าวที่เข้ามาแย่งอาชีพของคนไทย เพื่อเป็นการควบคุม ตรวจสอบ และดำเนินคดีคนต่างด้าวที่ลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย พร้อมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้นายจ้าง สถานประกอบการ และคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง

โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีการตรวจสอบนายจ้าง/สถานประกอบการแล้วจำนวน 10,174 แห่ง ดำเนินคดี 360 แห่ง และตรวจสอบคนต่างชาติ จำนวน 156,471 คน ดำเนินคดี 808 คน ในจำนวนนี้เป็นคนต่างชาติที่แย่งอาชีพคนไทยจำนวน 435 คน

“งานที่ห้ามคนต่างด้าวทำมีทั้งสิ้น 40 งาน โดยงานมัคคุเทศก์หรืองานจัดนำเที่ยว เป็นงานที่กฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีที่ 1 ห้ามคนต่างด้าวทำเด็ดขาดในจำนวน 27 งาน เพราะเป็นอาชีพสงวนของไทย คนต่างด้าวจึงไม่สามารถขอใบอนุญาตทำงานต่อนายทะเบียนเพื่อทำงานดังกล่าวได้ รวมทั้งหากได้รับใบอนุญาตทำงานแล้วแต่ภายหลังลักลอบทำงานมัคคุเทศก์จะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศ

ในส่วนนายจ้าง/สถานประกอบการที่รับคนต่างด้าวทำงาน โดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จะมีความผิดเช่นเดียวกัน ปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นระยะเวลา 3 ปี”

ผู้ที่พบเห็นการจ้างคนต่างชาติทำงานโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องทุกข์ได้ที่ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน โทร. 0-2354-1729 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

สมาคมมัคคุเทศก์ ยื่นหนังสือถึงผบ.ตร.

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ดำเนินการปราบปรามชาวต่างชาติที่ลักลอบประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ในประเทศไทย โดยมี พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เป็นผู้รับหนังสือ

นายวิโรจน์กล่าวว่า จากกรณีดาราสาวชาวไต้หวันโพสต์ว่าถูกด่านตำรวจรีดไถเป็นเงินจำนวน 27,000 บาท และมีข้อความบางส่วนพาดพิงถึงไกด์ท้องถิ่นในไทยว่าเป็นผู้แนะนำเธอว่า “หากเจอกรณีแบบนี้ให้รีบแอบ ๆ ยัดเงินใต้โต๊ะไปเลยสัก 5,000 บาท ไม่ก็ขอคุยตกลงราคากันเลย ถ้าให้ดีหาบอดี้การ์ด ไม่งั้นดวงซวยก็เจอรังแกแบบนี้”

สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตว่า การอ้างถึงไกด์ท้องถิ่นในไทย 4 คน ตามข่าวยังไม่ชัดเจนว่าเป็นไกด์ไทยที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของมัคคุเทศก์ไทย รวมทั้งอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับบุคคลทั่วไปในด้านภาพลักษณ์ของมัคคุเทศก์ไทยโดยรวม จึงขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้มีการตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย