อพยพแรงงานไทยจากซูดาน เดินทางด้วยเรือไปซาอุฯ ต่อเครื่องกองทัพบก

อพยพแรงงานไทยจากซูดาน

ปลัดแรงงานสั่งการ กรมการจัดหางาน ทูตแรงงานฯ อำนวยความสะดวกอพยพแรงงานไทยในซูดาน

วันที่ 28 เมษายน 2566 นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลืออพยพคนไทยจากสถานการณ์ความไม่สงบในซูดานว่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้ให้คนไทยแจ้งความประสงค์เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย โดยจะเดินทางด้วยทางเรือจากซูดานไปยังเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อมาขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศกลับสู่ประเทศไทย

กระทรวงแรงงานได้สั่งการให้ทูตแรงงานที่กรุงริยาด สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย ประสานกับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบว่ามีแรงงานไทยเดินทางกลับด้วยหรือไม่ พร้อมไปช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

โดยได้รับรายงานจากนายชาติชาย เทียมสนิท ที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) รักษาราชการแทน อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) ว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 เวลา 22.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ได้มีการอพยพคนไทยจากซูดานชุดที่มาเรือลำที่ 2 จากทั้งหมด 3 ลำ จำนวน 32 ราย

ในจำนวนนี้มี 7 ราย เป็นแรงงานหญิง ซึ่งทำงานที่ร้านนวดสปา และโรงแรมอัสซาลาม ทั้งหมดเดินทางมาอย่างปลอดภัย แต่มีอาการเหนื่อยล้าจากการรอขึ้นเรือและเดินทาง โดยสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (สนร.ริยาด) ได้ให้คำแนะนำเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทย และช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อนส่งเข้าที่พักเพื่อรอเดินทางกลับประเทศไทย

ทูตแรงงานฯ สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) รายงานอีกว่า จากการสอบถามเพิ่มเติมทราบว่ามีร้านนวดที่จ้างพนักงานนวดไทยทำงานประมาณ 3 ร้านในกรุงคาทูม และโรงแรมหนึ่งแห่ง มีพนักงานนวดไทยรวมแล้วประมาณ 24 ราย แต่ส่วนมากได้กลับไปพักผ่อนในช่วงเดือนรอมฎอน ทำให้เหลือแรงงานทำงานอยู่ไม่มากในช่วงที่เกิดเหตุปะทะกัน

นอกจากนี้ จากการสอบถามผู้จัดการร้านอาหารไทยบางกอก ก็ให้ข้อมูลตรงกันว่าลูกจ้างเกือบทั้งหมดได้ให้ไปพักผ่อน สำหรับคนไทยที่เหลือจำนวน 34 ราย ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีแรงงานไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่นั้น ทั้งนี้ สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (สนร.ริยาด) จะประสานกับเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ ณ เมืองเจดดาห์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความช่วยเหลือหากมีแรงงานไทยเดินทางกลับมาด้วย

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ในส่วนของกรมการจัดหางาน
ได้มอบหมายให้กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศส่งเจ้าหน้าที่กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศร่วมปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือคนไทยที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย

เมื่อวานนี้ (27 เมษายน) เวลา 22.00 น. ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 พบว่ามีคนไทยที่เดินทางกลับประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 78 คน เป็นนักศึกษาไทยมุสลิมจากจังหวัดในภาคใต้จำนวน 73 คน มีแรงงานไทยจำนวน 1 คน อาชีพแม่บ้านทำความสะอาดซึ่งอาศัยในสาธารณรัฐซูดานประมาณ 30 ปี เดินทางกลับมาพร้อมด้วยลูกจำนวน 4 คน

จึงได้แนะนำภารกิจของกรมการจัดหางาน หากประสงค์จะทำงานในระหว่างที่อยู่ในประเทศไทย รวมทั้งให้คำแนะนำการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศที่ถูกต้องตามกฎหมาย การสมัครเป็นสมาชิกกองทุน และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากกองทุน

ในส่วนของแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ เมื่อประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศเนื่องจากภัยสงคราม จะได้รับเงินสงเคราะห์รายละ 15,000 บาท ตามเงื่อนไขของระเบียบของกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ สำหรับกลุ่มนักศึกษาหากมีความประสงค์จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศภายหลังที่สำเร็จการศึกษาแล้ว

ทั้งนี้ จากรายงานของกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ พบว่ามีแรงงานไทยที่แจ้งเดินทางกับกรมการจัดหางานจำนวน 11 คน ในจำนวนนี้เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ 10 คน และสมาชิกที่สิ้นสุดความคุ้มครองแล้ว 1 คน ส่วนแรงงานที่เหลือจะเดินทางด้วยตนเองไม่ผ่านกรมการจัดหางาน

อย่างไรก็ตาม กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศได้ประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ของกองทุนฯ ผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเน้นย้ำให้คนหางานไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการส่งเงินเข้ากองทุน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนด หากเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในสาธารณรัฐซูดาน

อพยพแรงงานไทยจากซูดาน