เช็กสิทธิมาตรา 39-40 กลุ่ม 13 จังหวัดได้แล้ว เยียวยา 5 พันบาท 2 เดือน

ประกันสังคม-เงินเยียวยา

เปิดแล้ว! ตรวจสอบสิทธิมาตรา 39 และ 40 ในกลุ่ม 13 จังหวัด รับเงินเยียวยา 5 พันบาท เตรียมจ่ายเพิ่มอีกหนึ่งเดือน รวมเป็น  1 หมื่นบาท

วันที่ 13 สิงหาคม 2564 หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ เสนออนุมัติวงเงิน 33,471 ล้านบาท เนื่องจากการประกาศเพิ่มจำนวนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จาก 13 จังหวัด (กทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา) เป็น 29 จังหวัด หรือเพิ่มขึ้น 16 จังหวัด (กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง) เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

โดยกรอบวงเงินดังกล่าวจะนำไปจ่ายเยียวยาให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ซึ่งเป็นแรงงานอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ สัญชาติไทย เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 5,000 บาท โอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน โดยใน 29 จังหวัด แบ่งออกเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1.4 ล้านคน และมาตรา 40 จำนวน 5.25 ล้านคน รวมทั้งสิ้น 6,694,200 คน

นอกจากนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 13 จังหวัด จะได้รับเงินเยียวยารวม 2 เดือน โดย ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานไปทำรายละเอียดที่จะได้อีก 1 เดือนเสนอต่อการประชุม ครม.ครั้งต่อไป

วานนี้ (12 สิงหาคม) ทางประกันสังคมได้เปิดระบบให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 และ 40 ในกลุ่ม 13 จังหวัด สามารถตรวจสอบสิทธิการรับเงินเยียวยาได้ทางเว็บไซต์ประกันสังคม โดยวิธีตรวจสอบมีดังนี้

  1. เข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th/eform_news เลือกตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยา ผู้ประกันตนมาตรา 39 หรือ 40
  2. กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
  3. กรอกรหัสให้ตรงกับรูปที่กำหนด
  4. กดค้นหา

ทางประกันสังคมได้เปิดโอกาสให้แรงงานอิสระในกลุ่ม 13 จังหวัด สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพิ่ม และต้องจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 24 สิงหาคม

ทั้งนี้ อัตราการจ่ายเงินสมทบมาตรา 40 เข้ากองทุนประกันสังคมมี 3 อัตรา โดยอัตราการจ่ายเงินในงวดเดือนสิงหาคม 2564 – มกราคม 2565 (ระยะเวลา 6 เดือน) ได้มีการประกาศลด ตามที่ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศพระราชกฤษฎีกา เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ดังนี้

อัตราเดิมจ่ายสมทบ 70 บาท/เดือน อัตราลดเป็น 42 บาท/เดือน มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย

อัตราเดิมจ่ายสมทบ 100 บาท/เดือน อัตราลดเป็น 60 บาท/เดือน มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และกรณีชราภาพ

อัตราเดิมจ่ายสมทบ 300 บาท/เดือน อัตราลดเป็น 180 บาท/เดือน มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร

ช่องทางการชำระเงิน ฟรีค่าธรรมเนียมทุกช่องทาง ดังนี้

  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส (เซเว่นอีเลฟเว่น)
  • เคาน์เตอร์เทสโก้โลตัส
  • เคาน์เตอร์บิ๊กซี
  • ผ่าน Mobile Application ShoppyPay
  • ตู้บุญเติม
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)