นักวิชาการจุฬาฯวอนรัฐคุ้มครองไรเดอร์ อาชีพ เสี่ยง ไร้หลักประกัน

นักวิชาการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยงานวิจัย “ไรเดอร์-ฮีโร่-โซ่ตรวน ว่าด้วยสภาพการทำงานและหลักประกันทางสังคมของแรงงานส่งอาหารบนเศรษฐกิจแพลตฟอร์มในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19” ชี้อาชีพไรเดอร์เป็นโมเดลจ้างงานแบบใหม่ (Gig worker) มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ยังขาดการคุ้มครองสวัสดิภาพ วอนรัฐเร่งปฏิรูปกฎหมายแรงงาน

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 อรรคณัฐ วันทนะสมบัติ นักวิชาการศูนย์แม่โขงศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ทำวิจัย “ไรเดอร์-ฮีโร่-โซ่ตรวน ว่าด้วยสภาพการทำงานและหลักประกันทางสังคมของแรงงานส่งอาหารบนเศรษฐกิจแพลตฟอร์มในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19” เผยว่า รูปแบบความสัมพันธ์ด้านแรงงานระหว่างฝ่ายนายจ้างหรือแพลตฟอร์มออนไลน์กับลูกจ้างไรเดอร์แตกต่างไปจากรูปแบบการจ้างงานเหมาจ่ายที่คุ้นเคย และเปลี่ยนจากสถานประกอบการเป็นแพลตฟอร์มบนโทรศัพท์มือถือ

อรรคณัฐ วันทนะสมบัติ

ซึ่งหากมีปฏิสัมพันธ์กันบ้างก็เพียงการรับ-ส่งคำสั่งทางออนไลน์เท่านั้น ค่าจ้างหรือรายได้จึงมาจากการทำงานรับจ้างส่งของตามคำสั่งนั่นหมายถึง ยิ่งไรเดอร์ได้รับคำสั่งมากเพียงใดก็หมายถึงจำนวนรายได้ที่เพิ่มขึ้นของไรเดอร์คนนั้นในแต่ละวัน

แต่รายได้ของไรเดอร์แต่ละคนไม่แน่นอน ขึ้นลงตามสถานการณ์ในแต่ละวันที่ไม่อาจกำหนดได้ล่วงหน้า ซ้ำร้ายอำนาจต่อรองของไรเดอร์กลับต่ำ เนื่องจากต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มเป็นประตูหลักของแหล่งรายได้ และถึงแม้คู่แข่งในสนามการค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์จะมีจำนวนไม่มาก แรงงานไรเดอร์เหล่านี้ก็ยังไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากแพลตฟอร์มแต่ละแห่งล้วนกำหนดเงื่อนไขการให้ค่าจ้างแก่ไรเดอร์ได้เอง ไม่มีกลไกรัฐกำหนดมาตรฐานค่ารับจ้างแต่อย่างใด และยังไม่ต้องพูดถึงสวัสดิการแรงงานหรือการคุ้มครองสิทธิประโยชน์

อรรคณัฐกล่าวต่อว่า ลักษณะการจ้างงานที่ยังไม่มีเกณฑ์การคุ้มครองแรงงานกลุ่มนี้ที่ได้มาตรฐานเหมือนแรงงานกลุ่มอื่น ๆ ได้กลายเป็นโอกาสทองให้นายจ้างแพลตฟอร์มเอาประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากไรเดอร์ ขณะที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องก็ยังเพิกเฉยต่อปัญหา

“1 ใน 3 ของไรเดอร์เคยประสบอุบัติเหตุระหว่างทำงาน ทำให้ต้องลาหยุดเพื่อพักรักษาตัว แต่การหยุดของแรงงานกลุ่มนี้กลับส่งผลกระทบต่อรายได้และการประเมินผลงานประจำเดือนเพื่อประกอบการต่อสัญญาจ้าง ส่วนประกันอุบัติเหตุฝ่ายนายจ้างก็จำกัดให้เฉพาะผู้ทำผลงานดีเท่านั้น เพราะฉะนั้น รูปแบบการจ้างงานลักษณะนี้จึงสร้างปัญหาในตัวมันเอง เพราะไม่อาจให้หลักประกันสวัสดิภาพแรงงานเหล่านี้ได้เลย”

“ในอนาคตรูปแบบการจ้างงานแบบนี้จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมใช้บริการ แต่กฎหมายคุ้มครองลูกจ้างที่มีอยู่นั้นยังคลุมเครือ ไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้ว่าสถานะแรงงานกลุ่มนี้เป็นแบบใด นำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ทั้งเรื่องสวัสดิการและหลักประกันสังคม”

ติงรัฐเร่งปฏิรูปกฎหมายแรงงาน

อรรคณัฐกล่าวต่อไปว่า ไรเดอร์จัดเป็นแรงงานอิสระ หรือฟรีแลนซ์ (freelancer) ประเภทหนึ่งซึ่งไม่ผูกสถานะตัวเองกับองค์กรบริษัทใด โดยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินรับจ้างตามเงื่อนไขในสัญญาจ้าง ไม่ใช่ค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือนเหมือนข้าราชการหรือพนักงานบริษัททั่วไป ลักษณะนี้เองที่ทำให้แรงงานกลุ่มใหม่นี้อยู่นอกกฎเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

ดังนั้น หากกลไกรัฐไม่ปรับปรุงเกณฑ์การคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงานให้ทันสมัยตามลักษณะเศรษฐกิจและความนิยมการจ้างงานในปัจจุบันที่เรียกว่า “Gig Economy” (การจ้างงานในระยะสั้น เช่น รูปแบบงานอิสระ ฟรีแลนซ์) ปมปัญหานี้ก็อาจขยายผลกระทบไปไกลกลายเป็นภัยต่อความมั่นคงและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

“ฟรีแลนซ์ไรเดอร์ได้ค่าจ้างต่างจากฟรีแลนซ์จำพวกดีไซเนอร์อย่างมาก เพราะใช้ทักษะความสามารถแตกต่างกันชัดเจน ฉะนั้น เวลาเกิดอุบัติเหตุกับไรเดอร์ พวกเขาจะเข้าไม่ถึงประกันสังคม ต้องดูแลตัวเอง ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง หากอ้างกฎหมายประกันสังคมมาตรา 33 หรือมาตรา 39 ที่ระบุคุ้มครองแรงงานแต่ในสถานประกอบการเท่านั้น ยิ่งหมดหวัง ทั้ง ๆ ที่ไรเดอร์เป็นแรงงานอิสระแบบหนึ่งที่แม้จะมีต้นสังกัดแต่กลับไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของแรงงาน ขณะที่มาตรา 40 สวัสดิการไม่จูงใจให้สมัคร

ด้วยเหตุนี้หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับแรงงานไรเดอร์ ไม่ว่าจะตกงานหรือร่างกายไม่อาจทำงานได้ปกติ ย่อมส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของแรงงานอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ในระยะยาวจึงจำเป็นต้องยกเครื่องกฎระเบียบการคุ้มครองแรงงานโดยไม่ลืมคำนึงถึงแรงงานกลุ่มใหม่นี้ที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”

ความหวังของแรงงานไรเดอร์

นักวิจัยจากสถาบันเอเชียศึกษา กล่าวอีกว่า ในต่างประเทศวัฒนธรรมการรวมกลุ่มของแรงงานยังคงส่งผล โดยแต่ละกลุ่มจะช่วยเหลือกันและกัน โดยอำนาจต่อรองจากฝ่ายสหภาพแรงงานยังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แม้แต่หน่วยงานรัฐก็ยังให้ความคุ้มครองโดยทำหน้าที่ฟ้องร้องบริษัทเอกชน หากพบมูลว่ามีการจ้างงานโดยไม่เป็นธรรมเพราะฉะนั้น โอกาสที่บริษัทเอกชนคิดจะเอาเปรียบแรงงานกลุ่มนี้จึงน้อยลง

“สถานการณ์ไรเดอร์ไทยตอนนี้ อาจพูดได้ว่ายังไม่มีเจ้าภาพหลักในการลุกขึ้นมาปกป้องหรือแก้ไขกฎหมาย ฉะนั้น เฉพาะหน้ากระทรวงแรงงานน่าจะต้องมาขยับก่อน เอาให้ชัดว่าแรงงานกลุ่มนี้คืออะไร เป็นลูกจ้างประเภทไหน จะออกแบบหลักประกันทางสังคมให้ครอบคลุมกลุ่มนี้อย่างไร ให้สอดคล้องกับหลักคุ้มครองแรงงาน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมทั้งหลักประกันสุขภาพที่เหมาะกับแรงงานกลุ่มนี้พึงเป็นเช่นไรที่จะไม่เป็นภาระแก่ประเทศในระยะยาว”

อรรคณัฐสรุปว่า งานวิจัยที่จัดทำเน้นเสนอให้รัฐเริ่มต้นปฏิรูปกฎหมายแรงงาน อีกทั้งวอนทุกฝ่ายให้บูรณาการความร่วมมือเพื่อคลี่คลายปัญหา โดยเฉพาะผู้บริโภคที่ใช้บริการแรงงานเหล่านี้ต้องเริ่มตระหนักและเข้าใจสถานการณ์การจ้างงานและเข้ามามีส่วนร่วมผลักดันให้เกิดการดูแลสวัสดิภาพของเหล่าไรเดอร์