8 มี.ค. วันสตรีสากล กระทรวงแรงงานเพิ่มสิทธิประโยชน์ ดูแลแรงงานหญิง

กระทรวงแรงงานมุ่งดูแลสิทธิประโยชน์แรงงานหญิง เนื่องในวันสตรีสากล 8 มี.ค. พร้อมจัดประกวดผลิตสื่อในหัวข้อ “พลังสตรีพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย” สมัครได้ถึง 25 มี.ค. 2565

วันที่ 8 มีนาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็นวันสตรีสากล รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานสตรีมาโดยตลอด รวมถึงสนับสนุนให้สตรีได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และเท่าเทียม ได้รับสิทธิประโยชน์จากการจ้างงาน มีความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน เพราะเป็นเหล่าสตรีที่เป็นเสมือนกำลังหลักที่สร้างคุณค่า และความสำเร็จให้กับธุรกิจต่าง ๆ

นายสุชาติกล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้ขานรับนโยบายรัฐบาลดังกล่าวในการดูแลสิทธิประโยชน์ของแรงงานสตรีในหลาย ๆ ด้าน เพื่อส่งเสริมบทบาทสตรีและความเสมอภาคเท่าเทียม เป็นธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ กองทุนประกันสังคม ดังนี้

  • เพิ่มค่าคลอดบุตรจากเดิม 13,000 บาท เพิ่มเป็น 15,000 บาท
  • เพิ่มค่าสงเคราะห์บุตรจากเดิมเดือนละ 600 บาท เพิ่มเป็นเดือนละ 800 บาท
  • เพิ่มค่าฝากครรภ์ตามเกณฑ์คุณภาพจากเดิม 1,000 บาท เพิ่มเป็น 1,500 บาท
  • ฟรีตรวจสุขภาพ ตรวจสุขภาพเต้านม ตรวจมะเร็งปากมดลูก
  • ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคกรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อการคุ้มครองดูแลแรงงานสตรี

เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการความปลอดภัยทางสาธารณสุขของภาครัฐ ทำให้ในปีนี้กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ไม่ได้จัดงาน “วันสตรีสากล” แต่ยังคงให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมพลังของสตรี และยกย่องความยิ่งใหญ่ของผู้หญิง

ในปีนี้จึงได้จัดให้มีการประกวดผลิตสื่อเพื่อการสื่อสารกับสังคมในหัวข้อ “พลังสตรีพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย” โดยรับผลงานตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2565 ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

“เนื่องในวันสตรีสากลในปีนี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้หญิงทุกคน นอกจากมีหน้าที่ดูแลครอบครัวแล้ว ยังมีศักยภาพ มีพลังความสามารถที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงแรงงานจะดูแลคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้ได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม ยกระดับคุณภาพชีวิต และเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันต่อไป” นายสุชาติกล่าว