เปิดสนามแข่งกีฬาขี่ม้าโปโล ไทยแลนด์ โปโล โกลด์ คัพ 2023

สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย (Thailand Polo Association) โชว์ศักยภาพการจัดงานแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลประจำฤดูกาล 2023 ประเดิมรายการแรก รายการ “ไทยแลนด์ โปโล โกลด์ คัพ 2023” (THAILAND POLO GOLD CUP 2023) จัดขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE GOLDEN GAME FRIENDSHIP WITH THE HEART OF GOLD” เกมการแข่งขันสุดท้าทายแห่งปี เพื่อชิงชัยสู่ความเป็นหนึ่ง โดยมีนักกีฬาขี่ม้าโปโลระดับแนวหน้าของประเทศ พร้อมแขก วี.ไอ.พี.เข้าร่วมงานคับคั่ง สร้างบรรยากาศชื่นมื่น ที่วีเอส สปอร์ตคลับ และสยามโปโล ปาร์ค อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

เปิดสนามด้วยโชว์ศิลปะการบังคับม้า

นับเป็นหนึ่งในการแข่งขันกีฬาที่ใหญ่สุดแห่งปี 2023 สำหรับการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล รายการ “ไทยแลนด์ โปโล โกลด์ คัพ 2023” ซึ่งจัดขึ้นโดย สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนาศักยภาพนักกีฬาขี่ม้าโปโลของไทย พร้อมทั้งสนับสนุนการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับกีฬาขี่ม้าโปโลของไทย ให้มีมาตรฐานเป็นที่รู้จักในระดับสากล

“กนกศักดิ์ ปิ่นแสง” นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแข่งขันกีฬา ขี่ม้าโปโลรายการ ไทยแลนด์ โปโล โกลด์ คัพ 2023 ได้จัดงานเสร็จสิ้นตามเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 11-18 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา งานนี้ได้รับเกียรติจากนักกีฬาขี่ม้าโปโลเข้าร่วมการแข่งขัน 4 ทีม ได้แก่ ทีมคิง เพาเวอร์, ทีมอาห์มิบาห์ จากประเทศบรูไน, ทีมเต่าบิน และทีมเอสพีพี พัทยา

ซึ่งนักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทย ได้แก่ อัยยวัฒน์-อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา สองพี่น้อง ผู้บริหารระดับสูง คิง เพาเวอร์ และ ชนม์นฤทธ์-ศศิร์รัช โตมงคล สองพี่น้อง นักกีฬาขี่ม้าโปโลดาวรุ่งชาวไทย ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เปิดสนามด้วยโชว์ศิลปะการบังคับม้า แสดงถึงความสามารถและทักษะของ “ผู้ขี่” และ “ม้า” ที่ผสานใจกายเป็นหนึ่งเดียว นำโดย Maile Lavilla และ Shayan Richet ในโลกของ beauty and the beast และโชว์ชุดพิเศษ ในคอนเซ็ปต์ “CELEBRATION OF THE GOLDEN GAME” เฉลิมฉลองการกลับมาของเกมการแข่งขันสุดท้าทายแห่งปี เพื่อผนึกกำลังก้าวสู่จุดหมายที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน

จากนั้นมีการเปิดสนามการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดย กนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย เป็นผู้โยนลูกโปโลเปิดการแข่งขัน ก่อนเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งบรรยากาศการแข่งขันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เร้าใจ ก่อนที่ผลการแข่งขัน ทีมคิง เพาเวอร์ สามารถเอาชนะ ทีมอาห์มิบาห์ ด้วยผลคะแนน 5 : 3.5 คะแนน คว้าถ้วยแชมป์ ไทยแลนด์ โปโล โกลด์ คัพ 2023 ในครั้งนี้ไปครองได้สำเร็จ

โดยได้รับเกียรติจาก เอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบรางวัลให้แก่ทีมชนะเลิศ นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้สนับสนุนอย่าง ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย นายกกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มอบรางวัล BEST PONY AWARD หรือรางวัลม้าที่มีฝีเท้าดี ให้แก่ IBERIA

ที่สำคัญ “วิชัย เอี่ยมแสงจันทร์” ผู้อำนวยการกลุ่มกลยุทธ์กิจกรรมการตลาด บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ยังได้มอบรางวัล MVP หรือรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย ได้แก่ “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” จากทีมคิง เพาเวอร์

เปิดประวัติกีฬาขี่ม้าโปโล

“กีฬาขี่ม้าโปโล” ส่วนใหญ่จะได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูง ถ้าย้อนถึงตำนานของการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล ว่ากันว่า กีฬาชนิดนี้เริ่มต้นโดยการแข่งขันระหว่างชาวเปอร์เซียกับชาวเติร์กโคมัน ราว 600 ปีก่อนคริสตกาล แต่ผู้ที่ได้รับการบันทึกว่า เป็นผู้นำกีฬาชนิดนี้ไปเผยแพร่ คือ “ชาวมองโกล” ในยุคของ “เจงกิสข่าน” จากนั้นจึงค่อย ๆ พัฒนาเรื่อยมากระทั่งกลายเป็นกีฬาบนหลังม้า แพร่หลายไปยังแถบเปอร์เซียและดินแดนฝั่งตะวันออก

โดยเฉพาะในประเทศอินเดียที่มีการเล่นกีฬาชนิดนี้อย่างแพร่หลาย จนชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นเจ้าของอาณานิคมมาพบเข้า จึงได้นำกลับไปเล่น กระทั่งมีการก่อตั้งเป็น “สโมสร” ขึ้นมา และถูกเผยแพร่ไปยังทั่วโลก

สำหรับในประเทศไทย “กีฬาขี่ม้าโปโล” เริ่มเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 6 แต่เพราะในยุคแรกจำกัดเฉพาะชนชั้นสูงและชาวต่างชาติ จึงทำให้กีฬาชนิดนี้ค่อย ๆ เลือนหายไป

จนกระทั่งกีฬาชนิดนี้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ด้วยการผลักดันของ วิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ทั้งมีการจัดตั้งเป็นสมาคมขึ้นมา โดยได้รับอนุญาตจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้จัดตั้งเป็น “สมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย” เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547

และสมาคมได้ผลักดันให้มีการบรรจุกีฬาขี่ม้าโปโลเข้าในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เมื่อครั้งที่ 24 จังหวัดนครราชสีมา ในปี 2550 ซึ่งปัจจุบันมี “กนกศักดิ์ ปิ่นแสง” ดำรงตำแหน่ง “นายกสมาคมกีฬา ขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย” พร้อมได้สานต่อเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง ในการที่จะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการแข่งขันในทวีปเอเชีย