เปิดโปรไฟล์ 2 หญิงคุมท่องเที่ยว บุคลิกต่างสไตล์-เป้าหมายเดียวกัน

2คุมท่องเที่ยว

กำลังเป็นกระแสใหญ่ที่คนในวงการสังคมและธุรกิจต่างจับตามอง เมื่อ 2 หญิงระดับบิ๊ก ขึ้นแท่นคุมนโยบายท่องเที่ยวเป็นครั้งแรก โดยมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 “เศรษฐา ทวีสิน” นั่งบนยอดพีระมิด คอยเป็นพี่เลี้ยง

คนแรกคือรัฐมนตรีใหม่แกะกล่องในวัย 41 ปีชื่อ “สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” ผู้หญิงที่ท่านนายกฯประกาศต่อหน้า CEO 8 สายการบิน (ก่อนประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1) ว่าเธอคือ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ซึ่งไม่แปลกใจ เพราะเธอคนนี้เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้ทำงานก่อนใครเพื่อน โดยนายกฯคนใหม่พาเธอพร้อมทีมงานลงพื้นที่ครั้งแรก หลังรับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ เพื่ออัพเดตข้อมูล 2 จังหวัดหลักเมืองท่องเที่ยว “ภูเก็ต-พังงา” ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล
สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล

“สุดาวรรณ” มีชื่อเล่นว่า “ปุ๋ง” เป็นลูกสาวคนโตของ “กำนันป้อ” หรือ “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” อดีต รมช.พาณิชย์และ รมช.คมนาคม ที่ย้ายจากพรรคภูมิใจไทยมาอยู่พรรคเพื่อไทย กับ “มาดามหน่อย” ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานแป้งมันสำปะหลังรายใหญ่ในโคราช นั่นคือ “โรงงานแป้งมันเอี่ยมเฮง” ที่มีเครือข่ายในเครืออีกหลายแห่ง อาทิ เอี่ยมธงชัย เอี่ยมบูรพา เอี่ยมอำนาจ และเอี่ยมอุบล

“รัฐมนตรีปุ๋ง” จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เมื่อบุพการีเข้าสู่สนามการเมือง เธอจึงสานต่อธุรกิจของครอบครัว ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท แป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด แม้หน้าตาจะดูอ่อนเยาว์ สายตาดูอ่อนโยน แต่ความใจกล้าและเด็ดเดี่ยวก็เด็ดขาดพอตัว

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม หลังจากพ่อของเธอย้ายพรรคมาอยู่พรรคเพื่อไทย พร้อมกับลาออกจากเก้าอี้ รมช.คมนาคม ด้วยความไม่ลงรอยกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์ จนกลายมาเป็น “แม่ทัพอีสานใต้” ในพื้นที่โคราช ร่วมกับ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ทำให้พื้นที่โคราชของเพื่อไทย สามารถชนะเลือกตั้งได้ถึง 12 เขต จากทั้งหมด 16 เขตเลือกตั้ง และได้ สส.บัญชีรายชื่ออีก 2 ที่นั่ง รวม 14 ที่นั่ง ถือว่าไม่ธรรมดา

รวมถึงพรรคเพื่อไทรวมพลัง ซึ่งมี นายวสวรรธน์ พวงพรศรี เป็นหัวหน้าพรรค หลานชายแท้ ๆ ของนางยลดา หวังศุภกิจโกศล แม่ของปุ๋ง สามารถปักธงได้ สส.อีก 2 ที่นั่งในอุบลราชธานี

ADVERTISMENT

หลังเลือกตั้งได้ 4 วัน “วีรศักดิ์” เจ้าของบ้านใหญ่ “หวังศุภกิจโกศล” ประกาศทวง 2 เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เธอจึงมีเวลาเตรียมข้อมูล-เตรียมความพร้อมมานานถึง 2 เดือน สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีป้ายแดงคุมนโยบายท่องเที่ยวนับจากนี้

อีกหนึ่งหญิงเป็นผู้บริหารระดับสูงที่วงการธุรกิจท่องเที่ยวคุ้นเคย “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งจะดำรงตำแหน่งเป็น “ผู้ว่าการ ททท.” คนใหม่ แทนนายยุทธศักดิ์ สุภสร วาระ 4 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป

สำหรับโปรไฟล์ของฐาปนีย์ถือว่า “ไม่ธรรมดา” เพราะเธอคือลูกสาวของอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ “สมพล เกียรติไพบูลย์” ข้าราชการบำนาญ มีพี่น้องฝาแฝดชื่อ “ก้อย-ฐิตินันท์ เกียรติไพบูลย์” ปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัว หนึ่งในธุรกิจคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

“กลาง” คือชื่อเล่นของ “ฐาปนีย์” แต่คนใน ททท.จะเรียกติดปากว่า “รองกลาง” เพราะเธอขึ้นตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าการครั้งแรกเมื่ออายุยังน้อย ตั้งแต่ปี 2562 โดยเป็นรองผู้ว่าการ ดูแลนโยบายด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว

ด้านการศึกษา เธอเป็นนักเรียกนอกจบจากประเทศอังกฤษ ดีกรี Master of Science, University of Surrey และปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

เริ่มทำงานในตำแหน่งพนักงานวิเทศสัมพันธ์ 4 กองวิเทศสัมพันธ์ ฝ่ายสำนักงานผู้ว่าการ ททท. เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2542-31 มกราคม 2546 และเติบโตตามสายงานหลากแขนง จากพนักงาน เป็นหัวหน้างาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่ม ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ รองผู้ว่าการ และขึ้นตำแหน่ง “ผู้ว่าการ” ในที่สุด

ทั้งผ่านการอบรมระดับผู้บริหารมาแล้วในหลายหลักสูตร รวมเวลาที่ทำงานใน ททท.คือ 24 ปี

เป็น 24 ปีที่เป็น “ผู้บริหารหญิง” ที่คงความสวย ชอบทำงาน โดดเด่นเรื่องการแต่งกาย ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ เธอจึงดูโฉบเฉี่ยว out standing ในทุกงานของวงสังคม

 

ส่วนผลงานนั้น เธอคือผู้ริเริ่มโครงการ Amazing Thailand Marathon, Amazing triathlon super series เมื่อปี 2559 ตามมาด้วยโครงการ Awesome Muay Thai, Medical Health and wellness Tourism, โครงการแหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา สู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว, ขุมทรัพย์ ท่องเที่ยวไทยในปี 2561

ปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด-19 เธอเปิดฉากด้วยโครงการมาตรการเที่ยววันธรรมดา ราคาช็อกโลก ภายใต้นโยบายของรัฐบาล กระตุ้นเศรษฐกิจ ชิม ช้อป ใช้ และตามด้วย 2 โครงการในช่วงโควิดระบาดปี 2563-2564 โครงการ Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) และโครงการ The Best of SHA awards

เมื่อปีที่แล้ว “ฐาปนีย์” ยังได้รับตำแหน่ง “ข้าราชการยอดเยี่ยม” พร้อมกับรางวัลสตรีนักวิชาชีพตัวอย่าง ประจำปี 2566 ท่ามกลางหญิงเก่งจากทั่วประเทศอีก 58 คน ก่อนได้รับเลือกจากบอร์ด ททท.ให้ขึ้นเป็นผู้ว่าฯหญิงคนใหม่

กล่าวถึงสไตล์การทำงานของฐาปนีย์ เป็นที่รู้กันว่าเธอเป็นสาวมั่น ค่อนข้างถึงลูกถึงคน กล้าได้กล้าเสีย มีความชัดเจน และเปิดกว้าง ไม่ยึดติด ตัดสินใจเร็ว

นอกจากนี้ เธอยังมีแพสชั่น หรือแรงบันดาลใจที่เด่นชัด-ชัดเจนตามสไตล์ของผู้หญิงที่ปรารถนาความสำเร็จตามความฝัน

“ถ้ารู้จักกลางดี หลายคนจะรู้ว่ากลางชอบทำงาน ชอบเซอร์วิส เมื่อได้ขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของ ททท.แล้ว รู้กันว่าเป็นองค์กรที่เน้นธุรกิจด้านบริการเป็นหลัก กลางก็จะตั้งใจทำให้ดีที่สุด”

เพราะการท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างเม็ดเงินได้มหาศาล ภายใต้แรงกดดันแห่งความท้าทาย และการแข่งขันที่รวดเร็วของโลกปัจจุบัน