วิธีดูแลผิวหน้า ในวิกฤต PM 2.5 แพทย์ ชี้ ฝุ่นจิ๋วส่งผลเสียต่อผิวโดยตรง

PM 2.5

เคล็ดไม่ลับ วิธีดูแลผิวหน้า ให้ห่างไกลจากผลกระทบของมลพิษและ PM 2.5 แพทย์ ชี้ ฝุ่นจิ๋วส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวได้โดยตรง

วันที่ 18 เมษายน 2567 ปัญหามลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 นับเป็นวิกฤตที่ยากจะแก้ไขในปัจจุบัน นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายระบบทางเดินหายใจแล้ว มลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 เหล่านี้ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวได้โดยตรงเช่นกัน

“ธัญ” (THANN) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิว และเส้นผม ร่วมกับ “แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีดูแลสุขภาพผิวหน้าให้ห่างไกลจากผลกระทบของมลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5

แพทย์หญิงกนกวรรณกล่าวว่า ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ปกคลุมอยู่ทั่วร่างกายของเรา ทำหน้าที่เป็นปราการด่านแรกในการป้องกันอันตรายจากพวกแบคทีเรียและไวรัส อีกทั้งยังมีหน้าที่ช่วยควบคุมไม่ให้ร่างกายสูญเสียความชุ่มชื้น ควบคุมอุณหภูมิ และรับความรู้สึก

ปัจจุบันปัญหามลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานเริ่มมีมากขึ้นในหลายพื้นที่ โดยสารตั้งต้นของ PM 2.5 ก่อนจะรวมตัวกับไอน้ำ และฝุ่นควัน คือ ก๊าซพิษ หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และกระตุ้นให้มีการหลั่งสารไซโตไคน์ (Cytokines) ก่อให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง และทำให้ผิวเกิดการแพ้ได้ง่าย

โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis) หรือโรคผิวหนังอักเสบบริเวณต่อมไขมัน ซึ่งมลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 สามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังเราและก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยส่งผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช
แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช

ผลกระทบระยะสั้น-เฉียบพลัน

  • ทำลายเซลล์เคราติโนไซต์ (Keratinocytes) ที่อยู่ในชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และทำลาย ฟิลแลกกริน (Filaggrin) ที่มีหน้าที่ป้องกันผิวหนัง (epidermal barrier protein) ให้เกิดความอ่อนแอและเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ผิวแห้งและระคายเคืองง่าย
  • กระตุ้นการหลั่งสารที่ทำให้ผิวเกิดการอักเสบ ทำให้เกิดปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ และผดผื่นคัน
  • นำพาสารเคมีและโลหะหนักต่าง ๆ เข้าสู่ผิวหนัง ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง

ผลกระทบระยะยาว-เรื้อรัง

  • ก่อให้เกิดสภาวะผิวเสื่อมชราได้เร็วขึ้น รวมถึงทำให้ผิวเกิดการอักเสบอย่างต่อเนื่อง
  • กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น รบกวนกระบวนการสร้างเซลล์ผิว และระบบภูมิคุ้มกันผิว สาเหตุของการเกิดริ้วรอยร่องลึก กระตุ้นให้ผิวผลิตเม็ดสีมากขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระและจุดด่างดำ

หากสัมผัสฝุ่น PM 2.5 เพียง 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในช่วงเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิวหนังได้แล้ว และหากต้องเผชิญกับฝุ่นละอองระดับ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะก่อให้เกิดภาวะความชราของผิว รวมถึงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของผิวลดลง

ส่วนผู้ที่มีสภาพผิวมัน อาจพบปัญหาการอุดตันของรูขุมขน ทำให้เป็นสิวได้ง่าย ส่วนผู้ที่มีสภาพผิวอ่อนแอและแพ้ง่ายมักจะเกิดผดผื่น อาการคันและระคายเคืองได้ง่าย นอกจากผิวหน้าแล้ว ผิวบริเวณอื่นของร่างกายอย่างข้อพับก็สามารถเกิดผื่นแดงคันได้ด้วยเช่นกัน

วิธีดูแลผิวหน้า

สำหรับการดูแลผิวหน้าเมื่อต้องเผชิญกับมลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 ควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดผิวหน้าเป็นพิเศษ แนะนำให้ทำความสะอาดผิวหน้าทันทีเมื่อกลับถึงที่พักอาศัย โดยสามารถทำได้ 2 ขั้นตอน (Double Cleansing) ดังนี้

  • ขั้นตอนแรก ทำความสะอาดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนต่อผิว โดยไม่ทำลายสมดุลความชุ่มชื้นของผิว
  • ขั้นตอนที่ 2 ปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขนด้วยการใช้โทนเนอร์หลังการล้างหน้าทุกครั้ง นอกจากจะเป็นการทำความสะอาดหลังการล้างหน้าแล้ว ยังถือเป็นเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับขั้นตอนรับการบำรุงต่อไป

หลังการล้างทำความสะอาดผิว ควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว และทำหน้าที่เสมือนเกราะเคลือบปกป้องผิวไม่ให้สัมผัสกับมลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 โดยตรง และระหว่างสัปดาห์ควรมาส์กหน้าเพื่อฟื้นบำรุงสภาพผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

โดยแนะนำให้เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการคืนความกระจ่างใสสู่ผิว อาทิ สารสกัดจากผลองุ่น (Grape extract) และสารสกัดจากรากหม่อน (Mulberry root extract) หรือกลุ่มที่เพิ่มความชุ่มชื้นสู่ผิว อาทิ สารสกัดจากพืชทะเลทราย (Ougon extract), สารสกัดจากทีฮาโลส (Trehalose extract) หรือสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอ่อน ๆ อย่าง AHA หรือกรดผลไม้ที่อ่อนโยน รวมถึงสารสกัดที่สามารถลดเลือนริ้วรอย

อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ การทาผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดก่อนออกจากที่พัก ควรเป็นผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดที่เนื้อบางเบา ไม่ก่อให้เกิดความมันส่วนเกิน ไม่อุดตันรูขุมขน และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง

เรื่องที่ควรระวังเพิ่มเติมในช่วงที่มีปัญหามลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 ปริมาณมาก คือ การเลือกใช้เครื่องสำอางในการแต่งหน้า แนะนำให้เลือกใช้รองพื้นบางเบาแทนการใช้รองพื้นเนื้อหนัก เนื่องจากรองพื้นเนื้อหนักจะก่อให้เกิดความมันส่วนเกิน ทำให้มลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 สามารถมาเกาะและแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้โดยง่าย

นอกจากนี้ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งผัก ผลไม้หลากสี รวมถึงงดการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยสามารถปรับเปลี่ยนมาออกกำลังในร่มแทน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำสะอาดในระหว่างวันให้มาก ๆ ก็จะช่วยให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี และก่อนออกจากที่พักก็ไม่ควรลืมสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันมลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 ด้วย

ทั้งนี้ ธัญได้ชวนเหล่าเซเลบริตี้คนรักผิว อาทิ ม.ล.เอวิตา ยุคล, หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา และกานดา สายทุ้ม ร่วมเผยเคล็ดลับการดูแลปกป้องผิวทั้งก่อนและหลังเผชิญกับมลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 ด้วย

กานดา สายทุ้ม, ม.ล.เอวิตา ยุคล, แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช และหฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา
กานดา สายทุ้ม, ม.ล.เอวิตา ยุคล, แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช และหฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา